ธ.ก.ส.เดินหน้าประกันภัยข้าวนาปี 58 ทุ่มงบ 476 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่เป้าหมาย 1.5 ล้านไร่

ข่าวทั่วไป Monday May 18, 2015 13:59 —สำนักโฆษก

ธ.ก.ส.ดีเดย์โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2558 ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกข้าวทั่วประเทศกว่า 1.5 ล้านไร่ อัตราเบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 60 – 100 บาทต่อไร่ รัฐบาลพร้อมอุดหนุนส่วนต่างใช้งบประมาณรวม 476 ล้านบาท พิเศษลูกค้า ธ.ก.ส.รับเงินอุดหนุนค่าเบี้ยประกัน 10 บาทต่อไร่ เพิ่มแรงจูงใจให้เกษตรกรหันมาประกันความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ

นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2558 ให้ ธ.ก.ส.ดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2558 ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากปีการผลิตข้าว 2554 – 2557 โดยให้ ธ.ก.ส.ทำหน้าที่ผู้บริหารโครงการและเป็นตัวกลางระหว่างเกษตรกรผู้เอาประกันภัยกับผู้รับประกันภัยเอกชน และให้ ธ.ก.ส.ทดรองจ่ายเงินอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยแทนรัฐบาลไปก่อน โดยรัฐบาลจะตั้งงบประมาณจ่ายในส่วนเงินอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยดังกล่าวตามที่จ่ายจริง พร้อมด้วยค่าชดเชยต้นทุนเงินให้กับ ธ.ก.ส.ในปีงบประมาณถัดไป

สำหรับโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2558 เพื่อดำเนินการให้ความคุ้มครองแก่เกษตรกรลูกค้าผู้เอาประกันภัย ครอบคลุมภัยธรรมชาติ 7 ประเภท โดยมีหลักการสำคัญดังนี้ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ เป็นผู้เอาประกันภัยได้รับความคุ้มครองจากภัยธรรมชาติ ได้แก่ อุทกภัย ฝนทิ้งช่วง ลมพายุ อากาศหนาว ลูกเห็บ และอัคคีภัย รวมทั้งภัยศัตรูพืชและโรคระบาด มีการแบ่งพื้นที่การรับประกันภัยออกเป็น 5 พื้นที่ตามระดับความเสี่ยง เพื่อจัดเก็บเบี้ยประกันภัยในอัตราที่แตกต่างกันตามระดับความเสี่ยงของพื้นที่ ตั้งแต่ 124.12 บาท ถึง 483.64 บาท โดยเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ รับภาระค่าเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 60 - 100 บาทต่อไร่ และรัฐอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยในส่วนที่เหลือ 64.12 – 383.64 บาทต่อไร่

ทั้งนี้ ภาคเอกชนเป็นผู้รับประกันภัย วงเงินความคุ้มครอง 1,111 บาท ต่อไร่ ตลอดช่วงการเพาะปลูกสำหรับภัยธรรมชาติ 6 ประเภทดังกล่าวและวงเงินความคุ้มครอง 555 บาทต่อไร่ สำหรับภัยศัตรูพืชและโรคระบาด โดยการจ่ายค่าสินไหมทดแทนใช้เกณฑ์การประเมินความเสียหายที่ภาครัฐดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน เช่นเดียวกับการดำเนินโครงการปี 2554 – 2557 กำหนดจำนวนพื้นที่เป้าหมายการเอาประกันภัยทั่วประเทศเป็นจำนวน 1.5 ล้านไร่ สำหรับระยะเวลาในการดำเนินโครงการฯ เริ่มขายกรมธรรม์ตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม – 14 สิงหาคม 2558 สำหรับทุกภาคยกเว้นภาคใต้สิ้นสุดการรับทำประกันภัยวันที่ 11 ธันวาคม 2558 ทั้งนี้ในปีการผลิต 2558 นี้ รัฐบาลได้เริ่มโครงการเร็วขึ้นกว่าปีที่ผ่านๆ มา ทำให้เกษตรกรมีโอกาสในการเข้าร่วมและได้ประโยชน์จากโครงการมากขึ้น

"ธ.ก.ส.จะทำหน้าที่บริหารโครงการประกันภัยข้าวนาปีและเป็นตัวกลางระหว่างเกษตรกรลูกค้าผู้เอาประกันภัยกับผู้รับประกันภัย รวมทั้งทดรองจ่ายเงินอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยแทนรัฐบาลโดยจะขอชดเชยเงินจากรัฐบาลในส่วนของเงินอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยตามจำนวนที่จ่ายจริง วงเงินไม่เกิน 476 ล้านบาท พร้อมเห็นชอบให้ ธ.ก.ส.สมทบค่าเบี้ยประกันภัยสำหรับเกษตรกรลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการในอัตราไร่ละ 10 บาท โดยใช้จ่ายจากเงินกองทุนบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัยธรรมชาติและภัยพิบัติ ซึ่ง ธ.ก.ส.พร้อมดำเนินการให้ทันฤดูกาลเพาะปลูกในเดือนพฤษภาคมนี้" นายสมหมายกล่าว

สำหรับกิจกรรมวันเปิดตัวโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2558 ในวันนี้ จัดขึ้น ณ โรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์วิทยาคม จังหวัดอ่างทอง ซึ่งเป็นความร่วมมือของส่วนงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กรมส่งเสริมการเกษตร สมาคมประกันวินาศภัยไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ) ธ.ก.ส.ในฐานะผู้บริหารโครงการ พร้อมด้วยบริษัทผู้รับประกันภัย 7 บริษัทคือ กรุงเทพประกันภัยจำกัด (มหาชน) เจ้าพระยาประกันภัยจำกัด (มหาชน) ทิพยประกันภัย จำกัด(มหาชน) ทูนประกันภัย จำกัด(มหาชน) นวกิจประกันภัย จำกัด(มหาชน) ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด(มหาชน) วิริยะประกันภัย จำกัด(มหาชน) เพื่อให้การดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2558 เป็นที่รับรู้รับทราบในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

สำนักประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร ธ.ก.ส.

โทร 02 558 6100 ต่อ 6733, 6734 และ 6740

ที่มา : กระทรวงการคลัง

ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ