รมต.นร.สุวพันธุ์ฯ เผยการผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลของหน่วยงานต่าง ๆ มีความคืบหน้าโดยลำดับ

ข่าวทั่วไป Wednesday May 20, 2015 11:39 —สำนักโฆษก

รมต.นร.สุวพันธุ์ฯ เผยการผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลของหน่วยงานต่าง ๆ มีความคืบหน้าโดยลำดับ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาการทำการประมงที่ผิดกฎหมาย และการเตรียมออกคู่มือสำหรับประชาชน ตาม พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ที่จะประกาศใช้ในวันที่ 21 ก.ค.นี้

วันนี้ (20 พ.ค.58) เวลา 09.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ครั้งที่ 5/2558 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยภายหลังเสร็จสินการประชุมฯ ว่า ที่ประชุมฯ ได้มีการหารือและติดตามผลการดำเนินงานเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ตามข้อสังเกตของ EU ซึ่งกระทรวงกลาโหม โดยกองทัพเรือ ในฐานะศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ได้รายงานความก้าวหน้าเกี่ยวกับการดำเนินงานดังกล่าว ว่ามีความก้าวหน้าโดยลำดับทั้งส่วนที่เป็นต้นทาง คือ เรื่องของการจัดตั้งศูนย์แจ้งเรือเข้า-ออก การบริหารจัดการและการวางกรอบยุทธศาสตร์ในการทำงาน โดยเฉพาะที่เห็นผลชัดเจนคือเรื่องการจัดตั้งศูยน์ควบคุมเรือเข้า-ออก รวมถึงเรื่องการจดทะเบียนเรือ และการตรวจการออกไปทำการประมงของเรือต่าง ๆ เป็นต้น ขณะเดียวกัน ศปมผ. ได้มีการดำเนินการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย และทำให้การประมงของไทยได้มาตรฐานสากล โดยกฎหมายที่จะดำเนินการแก้ไขนั้นมีทั้งกฎหมายหลักและกฎหมายรอง

การประชุมฯ ในวันนี้ได้ย้ำให้ ศปมผ.เร่งรัดเรื่องนี้ ขณะที่ทางวิปรัฐบาลจะอำนวยความสะดวกในเรื่องของการผลักดันกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตามการดำเนินการของกองทัพเรือถือว่ามีความก้าวหน้าและมีความร่วมมือกับทุกภาคส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ตลอดจนหน่วยงานอื่น ๆ เป็นไปอย่างใกล้ชิดและมีความเป็นเอกภาพ เพราะฉะนั้นการดำเนินการทั้งมิติด้านกฎหมาย มิติด้านการปฏิบัติ ต้นทาง กลางทาง และปลายท้าย เป็นการเริ่มต้นได้ด้วยดีและกำลังจะเดินต่อไปข้างหน้าได้

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมฯ ได้มีการพิจาณาหารือในเรื่องของการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งผู้แทนกระทรวงการศึกษาธิการ ได้รายงานให้ที่ประชุม กขร.รับทราบถึงแนวทางการดำเนินการในเรื่องการปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบว่า ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการกำลังพัฒนาปรับปรุงและมีการปฏิรูปในระยะยาวทั้งในส่วนของนักเรียน ครู และระบบการศึกษา โดยมีการแบ่งการดำเนินการ 7 กลุ่ม ได้แก่ 1) การพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ 2) การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 3) การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา 4) การผลิตและการพัฒนากำลังคนรองรับการพัฒนาประเทศ 5) การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 6) การพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ7) การปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ ควบคู่กับการกำหนดเป้าหมายการดำเนินการปฏิรูปการศึกษาที่จะทำให้เด็กนักเรียนสามารถอ่านออกเขียน ซึ่งการเรียนการศึกษาสามารถที่จะช่วยในการพัฒนาประเทศได้ โดยเฉพาะการส่งเสริมสนับสนุนในเรื่องของการเรียนอาชีวะและสายสามัญให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกัน และเรื่องทวิภาคีซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างสถานศึกษากับภาคเอกชน

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ได้รับทราบถึงแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาการวิจัยและนวัตกรรม จากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยประเด็นที่สำคัญคือ รัฐบาลมีการสนับสนุนให้มีการวิจัยพัฒนาระหว่างภาคราชการกับภาคเอกชน เพื่อทำให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ และช่วยทำให้การลงทุน หรือการประกอบธุรกิจมีนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามา โดยเฉพาะเป็นนวัตกรรมภายในประเทศ ซึ่งขณะนี้เรื่องของยางพารานั้น ทางกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้มีการศึกษาและพัฒนา โดยมีแผนดำเนินการระยะแรกด้วยการทดลองนำยางพาราไปทำลู่วิ่ง และสนามฟุตบอล เป็นต้น ทั้งนี้ที่ประชุมฯ ได้รับทราบผลการดำเนินการใน 3 เดือนข้างหน้า

รวมทั้งที่ประชุมฯ ได้มีการติดตามผลการดำเนินงานขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล เช่น การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558 ซึ่งมีความก้าวหน้าโดยลำดับ ส่วนหน่วยงานใดที่ยังมีการเบิกจ่ายงบประมาณ พ.ศ.2558 ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ที่ประชุมได้ขอให้มีการเร่งรัดเพื่อให้การขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลสามารถเดินหน้าต่อไปได้

ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาหารือเรื่องพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 และการจัดตั้งศูนย์บริการร่วมแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) โดยเฉพาะพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2558 นี้ ซึ่งวันนี้ ก.พ.ร.ก็ได้ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการจัดทำคู่มือสำหรับประชาชนให้กับหน่วยงานราชการต่าง ๆ ได้ถือปฏิบัติเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องต้องกัน โดย ก.พ.ร.ขอให้ทุกหน่วยงานจัดทำคู่มือฯ ดังกล่าวส่งให้ ก.พ.ร.ตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่พระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกฯ จะมีการประกาศใช้ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2558 ต่อไป

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ