ลิ้นจี่พะเยา 1 พันกก.ขายหมดเกลี้ยงใน 45 นาที

ข่าวทั่วไป Friday May 29, 2015 16:40 —สำนักโฆษก

ลิ้นจี่พะเยา 1 พันกก.ขายหมดเกลี้ยงใน 45 นาที หลังเปิด“เทศกาลผลไม้ฯภาคเหนือ”ที่สมุทรปราการ

“รมว.พาณิชย์”จับมือโมเดิร์น เทรด ห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้า เปิดพื้นที่จำหน่าย พร้อมรณรงค์ส่งเสริมการบริโภคผลไม้ไทย ทั้งสดและแปรรูป ปลื้มลิ้นจี่จ.พะเยา 1 พันกก.ขายหมดใน 45 นาที หลังเปิดงาน “เทศกาลผลไม้ฯภาคเหนือ” ที่อิมพีเรียลเวิลด์ สมุทรปราการ และฝากถึงเกษตรกรให้ผลิตของมีคุณภาพ เพื่อยกระดับราคาผลไม้ไทยให้สูงขึ้น

พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าช่วงนี้เป็นฤดูผลไม้กำลังออกสู่ท้องตลาดหลากหลายชนิด เช่น เงาะ ทุเรียน มังคุด ลิ้นจี่ก็กำลังทยอยออกมา ด้วยความห่วงใยชาวสวนกระทรวงพาณิชย์จึงมีนโยบายผลักดันผลไม้คุณภาพดีออกสู่ตลาด โดยได้กำหนดกลยุทธ์ในการทำการตลาด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งช่องทางการจำหน่ายสินค้าปกติ การค้าผ่าน e- commerce รวมทั้ง

การส่งเสริมการแปรรูป และการประชาสัมพันธ์ในวงกว้าง โดยตลาดภายในประเทศกระทรวงพาณิชย์

ได้ร่วมกับห้างโมเดิร์น เทรด จัดโครงการ "กินผลไม้ไทย ใช้ OTOP มอบสุขทั่วไทย" ซึ่งมีทำเลที่ตั้งที่ประชาชนผู้บริโภคสามารถไปใช้บริการได้สะดวก เพื่อเป็นสถานที่วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าและผลิตผลของชาวสวน

โดยเมื่อวันที 19 พฤษภาคม ได้เริ่มจัดโครงการ “กินผลไม้ไทย ใช้ OTOP มอบสุขทั่วไทย”

กับห้างเทสโก โลตัส ทั่วประเทศ และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่งแม้จะจัดงานไปได้เพียงไม่กี่วัน

แต่สามารถจำหน่ายได้วันละไม่ต่ำกว่า 200 ตัน ทำให้ทางห้างฯมีแผนรับซื้อผลไม้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 380 ล้านบาท โดยจะจัดต่อเนื่องไปตลอดฤดูกาล นอกจากนี้เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม กระทรวงพาณิชย์ โดยกลุ่มพาณิชย์จังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด

ก็ได้ร่วมกับศูนย์การค้าอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง จังหวัดสมุทรปราการ จัดเทศกาลผลไม้และผลไม้แปรรูปภาคเหนือ ครั้งที่ 3 และได้รับการตอบรับที่ดีมากมีผู้บริโภคเข้ามาเลือกซื้อจำนวนมาก โดยเฉพาะ

ลิ้นจี่คุณภาพจากจังหวัดพะเยา เพียงวันแรก 1,000 กิโลกรัม ก็สามารถจำหน่ายได้หมดอย่างรวดเร็วภายใน 45 นาที ทุเรียนพันธุ์หลงลับแล – หลินลับแล จากอุตรดิตถ์ ที่รสชาติดีแม้จะราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 500 บาท แต่ก็ยังเป็นที่นิยมเนื่องจากหายากและต้องรอถึง 10 ปี จึงจะให้ผลที่รับประทานได้ ซึ่งนับเป็นผลไม้ระดับ Premium อีกรายการหนึ่ง นอกจากนี้ที่มีจำหน่ายและตลาดยังต้องการก็มีมะขามหวาน มะม่วง เสาวรส สับปะรดภูแล สับปะรดห้วยมุ่น รวมทั้งยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสินค้าเกษตรอื่นๆด้วย

พลเอกฉัตรชัย กล่าวอีกว่ากระทรวงพาณิชย์ซึ่งรับผิดชอบด้านการตลาด ยังได้จัดกิจกรรม “กินผลไม้ไทย ใช้ OTOP มอบสุขทั่วไทย” เพื่อขยายช่องทางการตลาดอีกกับห้างบิ๊กซี ราชดำริ กทม. ระหว่างวันที่ 22-31 พฤษภาคม ซึ่งเป็นสาขาที่อยู่ใจกลางความเจริญของเมือง ที่มีนักท่องเที่ยวใช้บริการจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่มคนเอเชียเช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ในวันเปิดงานประสบความสำเร็จมากขายดีทั้งผลไม้สดอย่าง ทุเรียน ลิ้นจี่ สินค้า OTOP เช่น แหนมเนือง ผลิตภัณฑ์จากข้าว ผ้าพื้นเมือง ที่สำคัญ

ได้มีการลงนามซื้อขายกันระหว่างห้างบิ๊กซีกับกลุ่มเกษตรกรบ้านแสนตุง จังหวัดตราด รวมจำนวน 860 ตัน ทั้งผลไม้เช่น ทุเรียน มะม่วง สับปะรด มะขามหวาน สินค้า OTOP เช่น ผลไม้และอาหารแปรรูป

ขนมขบเคี้ยว ผลิตภัณฑ์ทาผิว ผ้าพื้นเมือง และยังจะจัดร่วมกับห้างท็อปส์ มาร์เก็ต ระหว่างวันที่ 27 พฤษภาคม -2 มิถุนายน ในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด 14 สาขา เช่น อุดรธานี ขอนแก่น ภูเก็ต เชียงราย เชียงใหม่ พัทยา หาดใหญ่ เกาะสมุย การจัดกิจกรรมต่างๆนอกจากจะเป็นการช่วยหาช่องทางการตลาด

ให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีเงินสะพัดจากการจับจ่ายซื้อของในช่วงฤดูกาลผลไม้ อีกทั้งยังเป็นการรณรงค์ให้คนไทยหันมาเห็นคุณค่าของผลไม้ไทย บริโภคผลไม้ไทยให้มากขึ้น และขอฝากให้เกษตรกรหันมาให้ความสำคัญในเรื่องการผลิตให้มีคุณภาพกันให้มากกว่านี้

เพราะเป็นที่ต้องการของตลาดยังไงก็ขายได้ราคาดี

25 พฤษภาคม 2558

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ