นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี

ข่าวทั่วไป Tuesday June 16, 2015 17:33 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี

วันนี้ (16 มิ.ย. 58) เวลา 13.50 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี สรุปประเด็นสำคัญ ดังนี้

1. การใช้มาตรา 44 แก้ไขปัญหาเด็กแว้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กำลังหารือถึงความเหมาะสม วันนี้ประเทศไทยมีกฎหมายอยู่หลายฉบับ แต่มีปัญหาเรื่องการดำเนินการ ซึ่งมาตรการทางกฎหมายมุ่งหวังให้คนเรียนรู้ และให้โอกาสในการปรับปรุงตัว โดยบางเรื่องมีการปล่อยปะละเลยมานาน จึงกลายเป็นค่านิยมของคนที่ชอบฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งกฎหมายห้ามไม่ให้มีการแข่งรถบนถนนสาธารณะอยู่แล้ว เพราะอันตรายและส่งเสียงรบกวน จึงต้องกลับมาพิจารณาว่ากฎหมายปกติที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวเพียงพอกับการดำเนินการหรือไม่ หรือต้องนำกฎหมายอื่นๆ มาช่วยแก้ไขปัญหา โดยเน้นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุว่าทำไมเด็กจึงสนใจแข่งรถ ทั้งนี้ เด็กกลุ่มดังกล่าวอยู่นอกระบบการศึกษาประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่ได้เรียนหนังสือ ทำให้มีเวลาว่าง อีกทั้ง ผู้ปกครองไม่มีเวลาอบรมดูแล ทำให้กลายเป็นปัญหาต่อสังคม ซึ่งเราต้องสร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง รวมถึงโรงเรียน และสถานศึกษาต้องช่วยกัน วันนี้ถ้าเรามุ่งหวังใช้กฎหมายอย่างเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างถาวร สำหรับการสร้างสนามเพื่อให้เด็กใช้เป็นสนามแข่งรถนั้น ไม่มีความจำเป็นต้องสร้างสนามเพื่อรองรับการกระทำความผิดต่อกฎหมาย ต้องเร่งไปแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ และอย่าสอนให้คนไม่เคารพกฎหมาย ต้องดำเนินการจากเบาไปหาหนัก ซึ่งโดยพื้นฐานของคนไม่ต้องการทำความผิดต้องไปดูสาเหตุของเด็กเหล่านี้ต่อไป

2. การจัดงานเลี้ยงแสดงความดีใจกับนักกีฬาซีเกมส์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การให้รางวัลเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ สำหรับการจัดงานเลี้ยงต้องรอกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอวันเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ ต้องแสดงความดีใจกับนักกีฬาทุกคนที่ทำหน้าที่ตัวแทนของประเทศไทยอย่างเต็มความสามารถทำให้เป็นเจ้าเหรียญทองในอาเซียนอีกครั้ง ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ข้อสำคัญนักกีฬาไทยได้แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา และความเป็นสุภาพบุรุษไม่ได้ใช้ความรุนแรงในการตอบโต้ในเกมส์การแข่งขัน โดยเฉพาะการแข่งขันฟุตบอลต้องขอชื่นชม และให้กำลังใจ รวมถึงการให้กำลังใจคู่แข่งด้วยไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาแพ้หรือชนะ

3. การรักษาความปลอดภัยช่วงเดือนรอมฎอน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่มีมาตรการพิเศษในการรักษาความปลอดภัย เพราะมีการรักษาความปลอดภัยให้กับทุกคนอยู่แล้ว วันนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น พี่น้องชาวมุสลิมได้ออกมาประกอบศาสนกิจเป็นจำนวนมาก โดยการรักษาความปลอดภัยของกองทัพภาคที่ 4 ทั้งนี้ ต้องเร่งรัดบูรณาการทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคธุรกิจ ผู้นำทางศาสนา และภาคประชาชนต้องร่วมมือกันว่าทำอย่างไรให้สถานการณ์กลับมาสงบเป็นปกติ ซึ่งในปลายปีนี้จะเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนจะได้ไม่เสียโอกาสในการลงทุนของต่างประเทศ ทั้งนี้ รัฐบาลจะใช้กำลังในการแก้ไขปัญหาอย่างเดียวไม่ได้ ต้องใช้วิธีการพูดคุยหารือเพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาว

4. กรณีข่าวลือการปฏิวัติซ้อน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นเพียงการปล่อยข่าวให้เกิดความวุ่นวาย พร้อมยืนยัน ไม่มีการปฏิบัติซ้อนแน่นอน ขอความร่วมมือสื่อมวลชนอย่าสร้างข่าวให้เกิดความขัดแย้ง เพราะจะส่งผลต่อความเชื่อมั่น และการลงทุนภายในประเทศ

5. มาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อยู่ในขั้นตอนการหารือถึงมาตรการการช่วยเหลือ ซึ่งต้องสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องให้เกษตรกรถึงการเพาะปลูกพืชที่เหมาะสม พร้อมเปลี่ยนพฤติกรรมการทำเกษตรให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน และน้ำฝน ทั้งนี้ ต้องปรับโครงสร้างการเกษตรเพิ่มความเข้มแข็งด้านการแข่งขัน นำนวัตกรรมมาช่วยเพิ่มมูลค่าแปรรูปสินค้าเกษตรให้มีราคาสูงขึ้น

6. มาตรการการส่งเสริม SME นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการทั้งเรื่องของการลดดอกเบี้ย และจ่ายดอกเบี้ย ซึ่งรัฐบาลได้ใช้เงินงบประมาณช่วยเหลือ SME ไปจำนวนมากแล้วตามความเหมาะสม ทั้งนี้ อาจจะมีบ้างสำหรับเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้

7. เรื่องการจัดการขยะ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถือเป็นปัญหาสำคัญที่จะต้องแก้ไขในระยะยาว และต้องอาศัยความร่วมมือตลอดจนสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในการบริหารจัดการขยะที่ทำให้ประชาชนในชุมชนมีความพอใจ โดยได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยไปดำเนินการแล้ว

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ