ผลการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา

ข่าวทั่วไป Monday June 22, 2015 16:15 —สำนักโฆษก

พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา เมื่อวันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน 2558 ณ ห้องปฏิบัติการ MOC กระทรวงศึกษาธิการ

รับทราบการลาออกจากตำแหน่งของผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบกรณีที่นายเกษม กลั่นยิ่ง ที่ปรึกษาสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์เป็นประจำ และรับทราบกรณีที่นายสุรินทร์ อินทรรักษา รองเลขาธิการคุรุสภา ลาออกจากตำแน่ง เนื่องจากจะไปรายงานตัวเข้ารับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2

ส่วนรองเลขาธิการคุรุสภาที่เหลืออีก 3 คน คือ นายสนอง ทาหอม, นายสำเริง กุจิรพันธ์ และนายก๊ก ดอนสำราญ นั้น ที่ประชุมมีมติให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาทำหนังสือแจ้งไปยังทั้ง 3 คน ว่าจะต้องยุติการดำรงตำแหน่งไปด้วย ตามคำสั่งบอกเลิกจ้างนายอำนาจ สุนทรธรรม เลขาธิการคุรุสภา ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2558

พิจารณาหนังสืออุทธรณ์การบอกเลิกจ้างของนายอำนาจ สุนทรธรรม

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาหนังสืออุทธรณ์การบอกเลิกจ้างของนายอำนาจ สุนทรธรรม รวมถึงกรณีที่นายอำนาจ สุนทรธรรม ยื่นเรื่องเพื่อขอสำเนารายงานการประชุมคุรุสภา โดยที่ประชุมมีมติไม่รับอุทธรณ์และไม่ให้เอกสารตามคำร้องขอดังกล่าว

การตรวจสอบปัญหาการทุจริตภายใน สกสค.

กรณีการตรวจสอบปัญหาการทุจริตภายในสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ซึ่งนายเกษม กลั่นยิ่ง เป็นประธานกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฌาปณกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) นั้น ความคืบหน้าขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของหน่วยงานต่างๆ คือ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวสามารถเรียกนายเกษม กลั่นยิ่ง ไปให้ข้อมูลได้ หากจำเป็น

เห็นชอบให้ออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู 2 ใบ

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังได้หารือเรื่อง การออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งปัจจุบันมีหลากหลาย คือ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ใบอนุญาตปฏิบัติการสอน 2 ปี หนังสืออนุญาตให้ปฏิบัติการสอนโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพระยะเวลา 90 วัน ซึ่งผู้ที่ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติการสอนจะต้องไปฝึกอบรมให้ได้ตามมาตรฐานวิชาชีพครู 9 มาตรฐานตามที่คุรุสภากำหนด หรือเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู (ป.บัณฑิต) นั้น

ที่ประชุมพิจารณาแล้ว เห็นว่าควรปรับการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูให้เหลือเพียง 2 ใบ คือ

1) ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ออกให้แก่ผู้ที่จบจากคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ หรือผู้ขอประกอบวิชาชีพที่มีคุณสมบัติตามมาตรฐานวิชาชีพของคุรุสภา

2) ใบอนุญาตปฏิบัติการสอน 2 ปี ที่ออกให้แก่ผู้ขอประกอบวิชาชีพที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพที่คุรุสภากำหนด

ส่วนครูที่ปฏิบัติหน้าที่สอนมานานเกิน 4 ปีแล้ว เช่น ครูในโรงเรียนเอกชน ที่ประชุมเห็นว่าควรให้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้เลย อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้มอบหมายให้ นายกมล ศิริบรรณ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา ไปพิจารณารายละเอียดและหลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่อเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาครั้งต่อไป

บัลลังก์ โรหิตเสถียร

สรุป/รายงาน

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ