แถลงข่าวกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

จากนั้นได้เปิดการแถลงข่าวโดยมีประเด็นน่าสนใจดังต่อไปนี้

สถานการณ์นักท่องเที่ยว เดือนมิถุนายน 2558

จำนวนนักท่องเที่ยววันที่ 1-23 มิถุนายน 2558 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางมาประเทศไทย จำนวน 1,710,953 คน ขยายตัวร้อยละ

53.5 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (การขยายตัวในอัตราที่สูงดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากสถานการณ์ในเดือนมิถุนายน 2557

ที่นักท่องเที่ยวหดตัวถึงร้อยละ 27) สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมาก 2 อันดับแรกคือ จีน และมาเลเซีย ทั้งนี้คาดว่าตลอดทั้งเดือนมิถุนายน นักท่องเที่ยวจะขยายตัวต่อเนื่องประมาณร้อยละ 53-55

รายได้จากการท่องเที่ยว

จากจำนวนนักท่องเที่ยววันที่ 1-23 มิถุนายน ที่เดินทางมาประเทศไทย ก่อให้เกิดรายได้แก่ประเทศจำนวน 77,007.15 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ

56.56 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเมื่อรวมกับรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วง 8 เดือนก่อนหน้าจะคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,035,047.69 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 20.68 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

นางกอบกาญจน์ ยืนยันว่าหัวรถจักรด้านการท่องเที่ยวเพื่อการสร้างได้เข้าประเทศยังคงขับเคลื่อนตามเป้าหมายเดิม คือตั้งเป้าหมายให้มีนักท่องเที่ยวมาประเทศไทยในปี 2558 จำนวน 28.8 ล้านคน และสร้างรายได้ 2.2 ล้านล้านบาท

มาตรการขั้นตอนรับมือโรคเมอร์สของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ

สำหรับมาตรการขั้นตอนรับมือโรคเมอร์สของกระทรวงการท่องเที่ยวฯขณะนี้จะมีการแบ่งกลุ่มประเทศเสี่ยงมี 6 ถึง 7 ประเทศ รวม 37 สายการบิน ซึ่งปัจจุบันมีไฟลท์ลง 18 ถึง 21 เที่ยวบิน ต่อวัน โดยสายการบินเหล่านี้ทางสนามบินสุวรรณภูมิได้มีการจัดระบบให้เครื่องมาลงที่หลุมจอด E และF

จากนั้นจะมายังด่านตรวจคนเข้าเมืองด้านทิศตะวันตก ก่อนเครื่องลงจะมีการประกาศอธิบาย แจกแผ่นพับ Health Beware 3 ภาษาคือ ภาษาอารบิก

อังกฤษและเกาหลีแจ้งข้อปฏิบัติในการเข้าประเทศขณะนี้มีกล้องเทอร์โมสแกน 4 เครื่อง 2 เครื่องอยู่บริเวณหลุมจอด E และ Fส่วนอีก 2 เครื่องติดตั้งไว้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองทางด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกในวันศุกร์หน้าจะนำมาติดตั้งเพิ่มอีก 3 เครื่อง มีการปรับอุณหภูมิของเครื่องเทอร์โมสแกน ลงมาที่ 36.5 องศา จากเดิมที่ 37 องศา เพื่อให้การตรวจจับอาการได้เร็วขึ้น

จากนั้นทางด่านตรวจคนเข้าเมืองจะตรวจดูรายละเอียดว่าเดินทางมาจากประเทศใดจะเข้าพักที่ไหน หากเข้ามาแล้ว 14 วันพบอาการก็สามารถติดตามตัวได้ และทำการสังเกตุอาการหากพบว่ามีการไอจามผิดปกติ ก็จะเรียกหน่วยตรวจ PPE มาร้บตัวแยกไปในทันทีเพื่อนำส่งไปยัง ห้อง negative pressure ซึ่งป้องกันไม่ให้อากาศภายในห้องแพร่กระจายออกไปด้านนอก ในกรุงเทพมีอยู่ 38 ห้องตามโรงพยาบาลต่างๆ ส่วนในต่างจังหวัดมีอยู่ 70 ห้องกระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ

สำหรับจุดเรียกTAXIจะเป็นจุดสุดท้ายก่อนออกจากสนามบินที่จะมีการเก็บข้อมูลคนขับรถที่รับนักท่องเที่ยวไปส่งยังจุดมุ่งหมายซึ่งสามารถติดตามตัวได้หากมีเหตุและหากทางโรงแรมพบนักท่องเที่ยวติดเชื้อสามารถแจ้งสายด่วนไปได้ที่ เบอร์1669 ของ สธ.

นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า ขณะนี้สนามบินสุวรรณภูมิมีมาตรการคัดกรองเข้าประเทศเป็นพิเศษรวมทั้งใช้มาตรการเดียวกันนี้ดำเนินการกับสนามบินภายในประเทศอื่นๆอีกด้วย โดยขณะนี้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯได้ขอความร่วมมือในการคัดกรองผู้โดยสารเข้มข้นทั้งช่วงต้นทางและปลายทาง

“สำหรับเรื่องเส้นทางบินในพื้นที่ประเทศเสี่ยง ในเส้นทางขาออก ทราบว่าได้รับผลกระทบบ้าง แต่อาจจะเป็นในระยะเวลาสั้นๆ หากสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างนี้ เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้น โดย เรื่องดังกล่าวนี้เราได้มีการวางแผนสำรองทั้งระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูงสุดไว้อย่างรัดกุม ด้วยความไม่ประมาท ซึ่งปัจจุบันเรายังไม่พบการระบาดของโรค ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น เพราะไทยเคยผ่านวิกฤตการณ์ควบคุมโรคร้ายมาแล้ว มีมาตรฐานการควบคุมและป้องกันที่ดี โดยทางกระทรวงสาธารณสุขได้ย้ำกับเราว่าในสนามบินอื่นก็ได้ใช้มาตรฐานเดียวกันกับสนามบินสุวรรณภูมิ ตอนนี้เราคอยติดตามว่าจะทำอะไรให้ดีมากกว่าเดิมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้ และจะนำสิ่งเหล่านี้ไปประชาสัมพันธ์ให้กับนักท่องเที่ยวทราบต่อไป” นางกอบกาญจน์ กล่าวย้ำ

นางกอบกาญจน์ ยังกล่าวถึงประเด็นสืบเนื่องจากการติดสัญลักษณ์ “ธงแดง” บนเว็บไซต์ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)

โดยเผยแพร่สู่สาธารณะในสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดความตื่นตัวต่อผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับวงการท่องเที่ยวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งๆ ที่การประกาศบนเว็บไซต์นั้นเป็นไปตามแนวทางปฎิบัติตามเอกสาร DOC 9735 ซึ่งเป็นข้อมูลสถานะที่สาธารณะทราบกันอยู่แล้ว ซึ่งจะมีผลเพียงการเพิ่มเส้นทางการบินและการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินที่เราจะยังไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งตามการพัฒนามาตรฐานเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องให้เป็นไปตามข้อกำหนดค่อนข้างจะต้องใช้เวลาและมีกระบวนการที่ซับซ้อน ดังนั้นการที่กระทรวงคมนาคมได้ส่งท่านรัฐมนตรีช่วยฯ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ และคณะ

เดินทางไปชี้แจงทำความเข้าใจถึงแนวทางแก้ปัญหาเพื่อปลดล็อคเงื่อนไขต่างๆ ก็ทำให้ทาง ICAO พอใจในความพยายามแก้ไขปัญหาด้านการบินของประเทศไทยเป็นอย่างมาก

งานเลี้ยงฉลองชัยต้อนรับนักกีฬาซีเกมส์ ไม่ลืมประเมินผลงานเพื่อปรับปรุงต่อ

นางกอบกาญจน์ กล่าวว่าวานนี้ (24 มิถุนายน 2558) รัฐบาลได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงต้อนรับคณะนักกีฬาและผู้เกี่ยวข้องในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 28 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยการกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพหลักในการบริหารจัดการตั้งแต่เริ่มต้นตั้งแต่การเตรียมทีมฝึกซ้อมและส่งเข้าแข่งขันจนสำเร็จได้เป็นเจ้าเหรียญทอง ก็ต้องขอถือโอกาสนี้ขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายรวมถึงนักกีฬาอีกครั้งหนึ่งที่ช่วยกันสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติและสร้างความสุขให้แก่ประชาชน ผลการแข่งขันกีฬา SEA Games 2015 ในครั้งนี้ประเทศไทยได้เหรียญเป็นอันดับ 1 จากประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 11 ประเทศ ด้วย 95 เหรียญทอง 83 เหรียญเงิน 69 เหรียญทองแดง รวมทั้งสิ้น 247 เหรียญ เงินรางวัลจากกองทุพัฒนาการกีฬาแห่งชาติที่มอบให้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการแข่งขัน ตามเงื่อนไขของกองทุนฯ เป็นเงิน 144,945,000 บาท ซึ่งภายหลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขัน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะต้องมีการประเมินถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงในส่วนที่ยังเป็นจุดที่ต้องแก้ไข เช่นต้องมีการนำวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาปรับใช้อย่างเป็นระบบเพื่อการเป็นศูนย์กลางกีฬาของภูมิภาคตามแผนพัฒนาการกีฬาของชาติต่อไป นอกจากนี้ยังได้มอบรางวัลพิเศษให้แก่ทีมนักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย อีก 500,000 บาท ที่สามารถคว้าสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลก 2015 ที่ประเทศแคนาดา

หมายเหตุ : SEA Games 2013 ประเทศไทยได้เหรียญเป็นอันดับ 1 ด้วย 107 เหรียญทอง 94 เหรียญเงิน 81 เหรียญทองแดง รวมทั้งสิ้น 282 เหรียญ ตามด้วยประเทศพม่า และเวียดนามตามลำดับ

เตรียมการจัดกีฬาฟุตซอลหูหนวกชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 4

ความยิ่งใหญ่ คือจะเป็นการจัดครั้งแรกในเอเชีย “2015 Deaf Futsal World Cup Sports for All” กีฬาฟุตซอลหูหนวกชิงแชมป์โลกนี้จะนำมาซึ่งมิตรภาพความสามัคคีโดยรวมมุ่งเน้นพัฒนาคนสู่ความเป็นเลิศ กีฬาเป็นภาษาสากลทำให้คนทุกส่วนมีความสุขร่วมกันได้โดยเป็นไปตามแนวทาง Sport for All ล่าสุดได้มีการจับฉลากเลือกสายการแข่งขันกีฬาฟุตซอลคนหูหนวกชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 4 ไปแล้วเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2558 สำหรับการจัดแข่งขันระหว่างวันที่ 20-28 พฤศจิกายน 2558 ซึ่งจะมีนักกีฬามาร่วมแข่งขันกว่า 700 คนรวมผู้ติดตามทั้งสิ้นประมาณ 2,000 คน จาก 30 ประเทศ คาดว่าจะสร้างอะไรได้เข้าประเทศเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

กระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอังกฤษ

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2558 ได้เดินทางไปร่วมงาน โขนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 5 รอบ ในวาระครบรอบ 160 ปีความสัมพันธ์ไทยอังกฤษ และวาระครบรอบ 130 ปีของการแสดงใน Royal Albert Hall ของศิลปินจากประเทศไทย

และเป็นการทำงานแข็งขันร่วมกัน 3 กระทรวง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้พบกับ Key Operation และ Friends of Thailand Club กว่า 50 ราย ยิ่งทำให้เชื่อมั่นว่า นักท่องเที่ยวอังกฤษ ยังเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และจากสถิติในปีนี้ ตั้งแต่ ม.ค. – พ.ค มีนักท่องเที่ยวอังกฤษเข้ามาแล้ว 397,827 คน เพิ่มขึ้น 1.8 % จากปี 2557 และเพิ่มขึ้น 4.43 % เมื่อเทียบกับปี

2556 โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 17 วัน และก่อให้เกิดรายได้ 27,949 ล้านบาท นอกจากนี้ได้ประชาสัมพันธ์เส้นทาง ASEAN Connect กับ 5ประเทศสำคัญในภูมิภาคอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นเมียนมาร์ -กัมพูชา -มาเลเซีย -สิงคโปร์- เวียดนาม ใน ระดับ คือ ต่างชาติเที่ยวอาเซียน ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะสะดวกและทำให้คุ้มค่าในการเดินทางมาท่องเที่ยวได้หลายประเทศในครั้งเดียว

โครงการจักรยาน “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่”

ในวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม 2558 รัฐบาลพร้อมด้วยหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จะได้ร่วมกันจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2558 ภายใต้ชื่อกิจกรรม “BIKE FOR MOM ปั่นเพื่อแม่” ถวายเป็นพระราชสดุดี สนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ต้องการให้พสกนิกรแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีและความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รวมถึงเป็นการแสดงถึงความสามัคคีร่วมกันของประชาชนด้วยการปั่นจักรยานซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่ดี โดยเชิญชวนประชาชนทุกภาคส่วนที่สนใจทั้งในกรุงเทพฯ และส่วนภูมิภาค ร่วมกิจกรรมด้วยความสมัครใจโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม 2558 เวลา 15.00 น. เส้นทางเริ่มต้นจากลานพระราชวังดุสิตถึงกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ไป-กลับ รวมระยะทาง 43 กิโลเมตรกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงขอเชิญชวนประชาชนผู้สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ bikeformom2015.com สำหรับผู้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์จะได้รับเสื้อยืดพระราชทานโทนสีฟ้าข้อความว่า “BIKE FOR MOM ปั่นเพื่อแม่” และเข็มกลัดพระราชทานมีพระนามาภิไธยย่อ “สก” และ “มวก” บนแบรนเนอร์ BIKE FOR MOM ปั่นเพื่อแม่ ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2558 เป็นต้นไป

ที่มา: http://www.thaigov.go.th