รองนายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีที่ได้พบกับประธานบริษัท เอ็นอีซี คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และผู้บริหารของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนทัศนะในประเด็นต่างๆ อาทิ การจัดการภัยพิบัติ ความมั่นคงทางไซเบอร์ และดาวเทียม ตลอดจนความร่วมมือในการพัฒนาดิจิตอลสำหรับสังคมและเศรษฐกิจ
รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้จัดตั้งองค์กรเพื่อดำเนินงานในเรื่องความมั่นคงทางไซเบอร์ แต่เนื่องจากยังไม่มีองค์กรหลักที่ดูแลด้านนี้โดยเฉพาะ ทางบริษัทเอ็นอีซี ฯ นั้นได้ดำเนินการในเรื่องนี้ให้แก่ประเทศสิงคโปร์ โดยเชื่อมโยงข้อมูลกับองค์กรตำรวจสากล (INTERPOL) นอกจากนี้ บริษัทเอ็นอีซี ฯ ยังมีความสามารถในเทคโนโลยีทางด้านการแสกนนิ้วมือ สแกนใบหน้า ตลอดจนการพัฒนาอุปกรณ์ที่ในใช้ในการบริการเกี่ยวกับโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งสอดคล้องกับประเทศไทยที่ได้จัดตั้งศูนย์ข้อมูล (Data Center) เพื่อบูรณาการข้อมูลกับทุกภาคส่วนในประเทศ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเชิญชวนให้บริษัทญี่ปุ่นเข้ามาจัดตั้งสำนักงานใหญ่ระหว่างประเท (International Headquarters: IHQ) และบริษัทการค้าระหว่างประเทศ (International Trading Centres: ITC) ในไทย เพื่อใช้เป็นฐานขยายไปยังประเทศอื่นในภูมิภาค อีกทั้งยังเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณที่บริษัทเอ็นอีซี ฯ สนใจในการมีส่วนร่วมลงทุนกับไทยในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและเครือข่าย ซึ่งบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญ การเข้ามาลงทุนของญี่ปุ่นในไทยช่วยส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยี วิทยาการ และการบริหารจัดการที่มีมาตรฐาน ตลอดจนบูรณาการคอมพิวเตอร์กับเทคโนโลยีการสื่อสาร โดยทางรัฐบาลจะรับข้อมูลไว้พิจารณาต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th