วันนี้ (25 สิงหาคม 2558) เวลา 12.10 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี สรุปประเด็นสำคัญดังนี้
1. กรณีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวยอมรับว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีอุปกรณ์การตรวจสอบคัดกรองบุคคลที่มีประสิทธิภาพ ทำให้การติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์เป็นไปด้วยความยากลำบาก นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการจัดหาจากบริษัทต่าง ๆ ซึ่งได้เร่งให้ดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว เพื่อให้ระบบการตรวจสอบมีความเชื่อมโยงอย่างสมบูรณ์ เช่น ที่สนามบิน และด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกแห่ง (ตม.) สำหรับเครื่องมือไฮเทคโนโลยีที่จะมาช่วยสนับสนุนการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ในขั้นตอนการจัดหาเช่นกัน ซึ่งจะมีการใช้งบประมาณในการจัดซื้ออย่างโปร่งใส และเป็นการจัดซื้อที่มีความจำเป็นจริง ๆ
2. เรื่องการติดตั้งกล้อง CCTV ตามพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบปรับปรุงการติดตั้งกล้อง CCTV ตามพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ ให้ติดกล้องที่มีประสิทธิภาพสามารถจับภาพได้ชัดเจนกว่าเดิม พร้อมขอความร่วมมือภาคธุรกิจช่วยติดตั้งกล้อง CCTV ในห้างสรรพสินค้า และจุดสำคัญต่าง ๆ โดยรอบเพื่อสามารถใช้เป็นหลักฐานในการดูข้อมูลเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้น
3. การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจกับการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ พร้อมกับมีความคาดหวังถึงการทำงานของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ยืนยันไม่มีความขัดแย้งกับบุคคลใด ๆ ซึ่งได้มอบนโยบายให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทำงานสานต่อของเดิมอย่างต่อเนื่อง และพัฒนา เพิ่มเติม ขับเคลื่อนการทำงานให้มีความรวดเร็ว ชัดเจนมากยิ่งขึ้นอย่างที่ประชาชนที่คาดหวังและต้องการ สำหรับการแบ่งงาน รองนายกรัฐมนตรีนั้น ได้แบ่งงานรับผิดชอบตามกระทรวง โดยไม่เน้นแบ่งการทำงานเป็นด้าน ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีต้องช่วยกันขับเคลื่อนการทำงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์
สำหรับการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้ลงนามคำสั่ง พร้อมนำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว ขออย่าได้กังวลในการแต่งตั้งดังกล่าว ทั้งนี้ ใครจะเป็นผู้บัญชาการทหารบกก็ทำหน้าที่เหมือนกัน การแต่งตั้งตำแหน่งดังกล่าวต้องดูความเหมาะสมเรื่องความอาวุโส และการทำงานเข้ากับสถานการณ์ตอนนี้ เป็นหลักประกอบการแต่งตั้งด้วย
4. กรณีเว็บไซต์หน่วยงานราชการของไทยโดนแฮกข้อมูล นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้สั่งการให้หาผู้ดำเนินการว่าใครเป็นคนทำ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ พร้อมกล่าวว่าการเข้าถึงข้อมูลหน่วยงานราชการไทยมีการป้องกันหลายระดับ โดยจะหามาตรการป้องกันเพื่อความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการออกกฎหมายดำเนินการกับผู้กระทำความผิดด้วย
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th