ปส. ออกโรงแจงสถานการณ์น้ำท่วมโรงไฟฟ้าฟุกูชิมาไดอิจิ

ข่าวทั่วไป Monday September 14, 2015 15:59 —สำนักโฆษก

ดร.อัจฉรา วงศ์แสงจันทร์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เปิดเผยว่า ในช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาประเทศญี่ปุ่นได้เผชิญกับฝนตกอย่างหนักในหลายพื้นที่ของประเทศ รวมถึงพื้นที่โดยรอบโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกูชิมาไดอิจิ ซึ่งอยู่ในระหว่างการซ่อมแซมโครงสร้างที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์หลังจากเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิในเดือนมีนาคม ๒๕๕๔ และบริหารจัดการกากกัมมันตรังสีในรูปแบบต่างๆ ที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี มาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๘ ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่น ได้มีรายงานข่าวว่า ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องนั้น ได้สร้างปัญหาให้กับระบบระบายน้ำของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกุชิมะไดอิจิ ซึ่งบริษัท Tokyo Electric Power Company (TEPCO) ได้ยืนยันการทะลักของน้ำฝนจากทางระบายน้ำในครั้งนี้ การทะลักของน้ำฝนลงสู่ทะเลเกิดขึ้นในเวลา ๐๓.๐๐ ๐๕.๒๐ และ ๐๖.๐๐ น. ตามเวลาท้องถิ่น เป็นเวลายาวนานรวมกันกว่า ๒.๕ ชั่วโมง จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการคาดการณ์ว่าน้ำฝนที่ทะลัก       จากทางระบายน้ำลงสู่ทะเลญี่ปุ่นรอบโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกูชิมาไดอิจินั้น อาจจะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี    อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันจากทาง TEPCO ว่าน้ำฝนที่ทะลักลงทะเลตามรายงานข่าวนั้นปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีหรือไม่ ซึ่งในขณะนี้ TEPCO ได้ทำการเก็บตัวอย่างน้ำฝนจากทางระบายน้ำและอยู่ในระหว่าง           การวิเคราะห์การปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสี
          ดร.อัจฉรา วงศ์แสงจันทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากมีการยืนยันถึงการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในน้ำฝน     ที่ทะลักจากทางระบายน้ำลงสู่ทะเลตามรายงานดังกล่าว น้ำที่ลงสู่ทะเลก็จะถูกพัดพาไปในทิศตะวันออกของประเทศญี่ปุ่นตามทิศทางการไหลของกระแสน้ำรอบประเทศญี่ปุ่นและทิศทางการไหลของกระแสน้ำบริเวณซีกโลกเหนือ (Gyre) ซึ่งไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลของประเทศไทย และที่สำคัญ ปส. มีมาตรการเฝ้าระวังภัยทางนิวเคลียร์และรังสีทางทะเลแบบบูรณการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงาน ได้แก่ กรมควบคุมมลพิษ กรมประมง และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งได้มีการพัฒนาระบบการเฝ้าระวังภัยฯ มาอย่างต่อเนื่อง     ซึ่งในปัจจุบัน ปส. มีสถานีเฝ้าระวังภัยทางรังสีใต้น้ำ จำนวน ๓ สถานี ได้แก่ ระยอง ภูเก็ต สงขลา และสถานีเฝ้าระวังภัยทางรังสีในอากาศอีก ๑๗ สถานี ซึ่งจะเฝ้าตรวจระดับรังสีแกมมาตลอด ๒๔ ชั่วโมง และส่งข้อมูลที่เป็นปัจจุบันไปยังศูนย์เฝ้าระวังภัยทางรังสี ณ ปส. ซึ่งจากผลการดำเนินงานดังกล่าวพบว่า สิ่งแวดล้อมทางทะเลของประเทศไทย   ยังไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์รั่วไหลของสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกูชิมา ดังนั้น ขอให้ประชาชนในทุกภาคของไทยมีความมั่นใจ ว่าสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปลอดภัย เนื่องจาก ปส. คอยเฝ้าระวังความปลอดภัยจากรังสีให้ท่านอยู่ตลอดเวลา.

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ