นายกรัฐมนตรีขอบคุณปาปัวนิวกินี สั่งซื้อข้าวไทยและสนใจที่ศึกษาการปลูกข้าวจากไทยด้วย

ข่าวทั่วไป Wednesday November 18, 2015 10:38 —สำนักโฆษก

วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2558) เวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ โรงแรม Dusit Thani พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบหารือทวิภาคีกับนายปีเตอร์ โอนีล (Hon. Peter O’Neill) นายกรัฐมนตรีรัฐเอกราชปาปัวนิวกินี ระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 23 โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมหารือด้วย

ภายหลังการหารือ พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

ผู้นำทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง หลังจากที่เคยมีโอกาสร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 22 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีและชื่นชมต่อความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Pacific Islands Forum (PIF) ครั้งที่ 46 และ Post-Forum Dialogue (PFD) ครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 7-11 กันยายน 2558 และการจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้องในปี 2561 ซึ่งไทยพร้อมที่จะแบ่งปันประสบการณ์และสนับสนุนปาปัวนิวกินี ในเรื่องกระบวนการเตรียมการเป็น เจ้าภาพดังกล่าว

ทั้งนี้ ไทยและปาปัวนิวกินีมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด โดยทั้งสองฝ่ายยินดีที่ความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกันมีความใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นและขยายในทุกมิติ และเห็นพ้องที่จะร่วมกันพัฒนาความสัมพันธ์ให้ครอบคลุมในทุกมิติมากยิ่งขึ้นต่อไป

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยพร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในด้านการค้า การลงทุน โดยเฉพาะการประมง และความร่วมมือเพื่อการพัฒนาด้านเกษตร ซึ่งนายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินีได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของสินค้าการเกษตรของไทย โดยเฉพาะข้าว และสนใจที่จะขอคำแนะนำในการปลูกข้าว เพื่อส่งเสริมการปลูกข้าวขอปาปัวนิวกินี โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณปาปัวนิวกินี ที่ให้การสนับสนุนสั่งซื้อข้าวจากไทย ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจในคุณภาพข้าวไทย ซึ่งเป็นข้าวชั้นเยี่ยมของโลก นอกจากนี้ ไทยยังมีสินค้าเกษตรประเภทอื่นๆ ที่ขอให้ปาปัวนิวกินีพิจารณาสั่งซื้อเพิ่มเติม

ผู้นำทั้งสองยินดีที่ไทยและปาปัวนิวกินี ได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการประมง เนื่องจากปาปัวนิวกินี มีทรัพยากรประมงที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบกับไทยมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านอุตสาหกรรมการประมง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมความร่วมมือด้านประมงระหว่างกัน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือความสัมพันธ์ในมิติอื่นๆ เช่น การส่งเสริมความร่วมมือด้านวิชาการ ตลอดจนการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน

นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณที่ปาปัวนิวกินีให้การดูแลภาคเอกชนไทยที่เข้าไปลงทุน โดยไทยประสงค์จะให้ปาปัวนิวกินีเป็นศูนย์กระจายสินค้าและเป็นแหล่งลงทุนของภาคเอกชนไทยในอุตสาหกรรมประมงต่อเนื่อง

ไทยสนับสนุนปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างอาเซียนกับปาปัวนิวกินีในฐานะผู้สังเกตการณ์พิเศษของอาเซียน และยินดีที่ปาปัวนิวกินีมีความสนใจที่จะสมัครเป็นสมาชิกอาเซียน ซึ่งการรับสมาชิกใหม่ของอาเซียนจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ระบุไว้ในกฎบัตรอาเซียน

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี ยังได้กล่าวถึงความสำคัญถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลประทบต่อประเทศในหมู่เกาะเอเชียแปซิฟิกและภูมิภาคอาเซียน โดยจะมีการหารือในการประชุมระดับผู้นำ ณ กรุงปารีส ในปลายเดือนนี้

นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี ได้แจ้งความประสงค์ที่จะเปิดสถานเอกอัครราชทูตปาปัวนิวกินี ในประเทศไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวยินดีและรู้สึกเกียรติ

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศ ยังได้ต่างเชิญชวนเยือนประเทศซึ่งกันและกันในโอกาสแรกที่สะดวก

******************************

กลุ่มวิเทศสัมพันธ์ / สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ