โฆษกรัฐบาลเผย UNICEF ชื่นชมโครงการเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดของไทย ล่าสุดมีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ์แล้วกว่า 67,000 ราย ปัตตานีครองแชมป์มากที่สุด พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมรับสิทธิ์ ย้ำเปิดลงทะเบียนถึง 30 ก.ย.นี้

ข่าวทั่วไป Saturday March 12, 2016 14:47 —สำนักโฆษก

พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลคำนึงการประกันสิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย (แรกเกิด – 3 ปี) ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต โดยได้จัดทำโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดตั้งแต่ 1 ต.ค. 58 เป็นต้นมา เพื่อมอบเงินอุดหนุน 400 บาทต่อเดือน ให้แก่เด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 1 ปี ล่าสุด ณ วันที่ 9 มี.ค.59 มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 67,322 ราย คิดเป็นร้อยละ 52.6 ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ เบิกจ่ายไปแล้ว 18,799 ราย เป็นเงิน 34.51 ล้านบาท

"รัฐบาลได้รับหนังสือชื่นชมจากกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ UNICEF ที่ได้ดำเนินโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด และยังได้รับการกล่าวถึงในที่ประชุมรัฐสภาของประเทศแอฟริกาใต้ เพื่อบรรจุแนวทางการดำเนินงานของประเทศไทยเป็นต้นแบบด้วย”

พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า จังหวัดที่มีการลงทะเบียนมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จ.ปัตตานี บุรีรัมย์ นครศรีธรรมราช ศรีสะเกษ และนครราชสีมา โดยผู้ลงทะเบียนส่วนใหญ่เป็นคุณแม่วัยใส คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว คุณแม่ว่างงาน และคุณแม่ที่ประสบปัญหาที่อยู่อาศัย ครอบคลุมทั้งผู้ว่างงาน เกษตรกร ผู้รับจ้าง ค้าขาย กำลังศึกษา และไม่มีอาชีพ ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอีกทางหนึ่ง

“ท่านนายกฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กช่วงปฐมวัย เพราะเป็นช่วงเวลาที่เด็กจะมีพัฒนาการทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยพอใจการทำงานของ พม. และกำชับให้เร่งประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ประชาชนทราบ เพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์ไปจนถึง 30 ก.ย.59 ณ สำนักงานเขต สำนักงานเทศบาล อบต. กรมกิจการเด็กฯ และสำนักงาน พม.ในแต่ละจังหวัด อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานในปีนี้ เป็นระยะที่ 1ของโครงการฯ โดยหลังจากนี้ รัฐบาลมีแผนขยายการให้ความช่วยเหลือของโครงการนี้ให้มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด”

ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายของโครงการ ได้แก่ เด็กที่เกิดระหว่าง 1 ต.ค.58 – 30 ก.ย.59 พ่อแม่หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสัญชาติไทย และอยู่ในครัวเรือนยากจน โดยจะได้รับเงินอุดหนุน 400 บาทต่อเดือน มีการเยี่ยมเยียนครอบครัว ปรับสภาพที่อยู่อาศัย ให้การศึกษาและอาชีพ อบรมการดูแลตนเองและเด็ก และบริการส่ง SMS เกี่ยวกับการดูแลเด็กตามช่วงวัย

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ