คณะผู้แทนการค้าออสเตรีย เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี

วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2544 
          วันนี้ เวลา 12.00 น. ณ ศูนย์แถลงข่าว ทำเนียบรัฐบาล นายยงยุทธ ติยะไพรัช โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการสนทนา ในโอกาสที่ผู้แทนการค้าของไทย (นายประจวบ ไชยสาส์น) ได้นำคณะผู้แทนการค้าออสเตรีย เข้าเยี่ยมคารวะ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้ 
          นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเห็นชอบในหลักการ โครงการการแลกเปลี่ยนการซื้อข้าว ไทยกับการซื้อโรงงานผลิตไบโอเอทานอลจากออสเตรีย ในมูลค่าที่เท่ากัน ซึ่งถือเป็นการดำเนินงานในลักษณะ Account Trade โดยการแลกเปลี่ยนระหว่างสินค้าเกษตรกับพลังงาน ซึ่งจะสามารถช่วยทดแทนการนำเข้าพลังงานน้ำมันปิโตรเลียม โดยเฉพาะสาร MTBE ซึ่งเป็นหัวเชื้อที่ใช้เพิ่มออกเทนในน้ำมันเบนซิน และในขณะเดียวกันก็จะช่วยดูดซับสินค้าเกษตรส่วนเกินของไทย เช่น อ้อย มันสำปะหลัง ซึ่งจะกลายเป็นวัตถุดิบในกระบวนการผลิตของโรงงาน โดยโรงงานผลิตไบโอเอทานอลที่อยู่ในโครงการทั้งหมด 5 โรง จะได้กระจายจัดตั้งในเขตเกษตกรรมของไทยตามภูมิภาคต่างๆ ของไทย คือ ภาคตะวันออก 1 แห่ง ภาคเหนือ 1 แห่ง และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 แห่ง ทั้งนี้ การดำเนินการโครงการดังกล่าว นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและเกษตรกรเป็นหลัก
          นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงใยในสาระสำคัญ 2 ประเด็น คือ การประเมินต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งและบริหารโรงงาน ซึ่งจำเป็นต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม รวมทั้งการหลีกเลี่ยงการจัดจำหน่ายสินค้าเกษตร ที่จะต้องไม่กระทบต่อตลาดสินค้าเกษตรไทยในต่างประเทศ พร้อมกับได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ดูแลในเรื่องการแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตรกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยประสานการจัดตั้งและดำเนินการของโรงงานกันในรายละเอียดต่อไป ในการนี้ เอกอัครราชทูตออสเตรียประจำประเทศไทย ได้กล่าวว่า โครงการนี้ จะเป็นโครงการในลักษณะ รัฐบาลต่อรัฐบาล (Government to Government ) ซึ่งทางกลุ่มผู้ดำเนินโครงการประกอบด้วยบริษัทชั้นนำได้เทคโนโลยีและพลังงาน อาทิ กลุ่มบริษัท Austria Consortium for Infrastructure (Vogelbusch GMBH) Austria Consortirum for Infrastructure (Siemens AG)โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพ และประสิทธิผลของโรงงาน รวมทั้งการจัดตั้งการป้องกันมลพิษทางสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐาน EU ด้วย อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทผู้ดำเนินการจะให้คำสำคัญยิ่งต่อข้อห่วงใยของรัฐบาล และจะได้มีการหารือใน รายละเอียดต่อไป 
          ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักโฆษก โทรภายใน 8055 โทร 6299292,6299491 โทรสาร 2814450
-สส-