นายกรัฐมนตรี ชื่นชมอุตสาหกรรมที่ได้รับรางวัล ระบุ เป็นส่วนร่วมที่ดีเพื่อก้าวไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ 4.0

ข่าวทั่วไป Tuesday July 26, 2016 09:31 —สำนักโฆษก

วันนี้(26 กรกฎาคม 2559) เวลา 17:00 น. ณ บริเวณด้านหน้าอาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค อารีน่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2559 จัดโดย กระทรวงอุตสาหกรรม ผู้ร่วมงานประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี เอกอัครราชทูต รัฐมนตรี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้บริหารภาครัฐและเอกชน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และประชาชนผู้มาร่วมงานประมาณ 800 คน

ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวรายงานว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดงานพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2559 ขึ้น เพื่อประกาศเกียรติคุณผู้ประกอบการที่มีความวิริยะอุตสาหะในการสร้างสรรค์งานที่มีคุณภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงเป็นแบบอย่างที่ดีแก่กิจการอุตสาหกรรมอื่น ๆ ตลอดจนเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้ประกอบการในการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ โดยงานพิธีมอบรางวัลในครั้งนี้ ได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "เสริมศักยภาพอุตสาหกรรมไทย ความท้าทายสู่อนาคต" เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมมาศานุวงศ์ ในฐานะพระผู้ทรงเป็นต้นแบบของการพัฒนาอาชีพและสร้างวิสาหกิจชุมชนให้แข็งแกร่ง บนแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งเพื่อเป็นการแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมไทยต่อการขับเคลื่อนสู่อนาคต

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบรางวัลแก่อุตสาหกรรมไทยดีเด่น พร้อมกล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้เป็นประธานในพิธีงานมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2559 และงาน Thailand Industry Expo 2016 พร้อมกับแสดงความยินดีกับผู้ประกอบการทั้ง 39 ราย ที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศ นั่นถือว่าเป็นที่สุดของอุตสาหกรรมในทุกระดับเดียวกัน ทั้งนี้ ก็เข้าใจว่าทุกคนมีส่วนร่วมกันอย่างเต็มกำลัง

สำหรับรางวัลอุตสาหกรรมนี้ ถือได้ว่าเป็นรางวัลที่มีเกียรติ โดยการจัดงานดังกล่าวร่วมกว่า 20 ปีแล้ว ตั้งแต่พ.ศ. 2530 ซึ่งทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้วว่า อุตสาหกรรมทั้งหมดนี้ มีความเกี่ยวข้องต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อในอดีตนั้น ได้มีการพัฒนาทางการเกษตร จนมาถึงปัจจุบันก็กำลังพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ 4.0 แต่จากในอดีตสถานการณ์ที่ผ่านมา ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นทั้งในเรื่องของการชะลอตัวทางด้านเศรษฐกิจ ทำให้ประเทศทุกประเทศ ไม่สามารถก้าวไปสู่การเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมได้ ฉะนั้น การเปลี่ยนแปลงไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ทุกคนจะต้องทำการยอมรับอย่างชัดเจน เพื่อสร้างความเข้าใจ ในทุกเรื่อง ทั้งในเรื่องของปัญหา อย่างเช่น จำนวนผู้สูงอายุที่มีจำนวนมากขึ้นเกี่ยวเนื่องกันจนมาถึงงบประมาณที่จะเข้าไปดูแล ปัญหาเหล่านี้ รัฐบาลไม่คิดว่าเป็นภาระแต่อย่างใด เพราะเข้าใจว่าคนเหล่านี้ ที่ผ่านมาได้สร้างประโยชน์ให้กับประเทศมาไม่น้อย ซึ่งทุกคนก็ต้องเข้าใจ และทุกรัฐบาลก็ต้องเข้ามาดูแลอย่างเต็มกำลัง โดยไม่แบ่งแยกว่าเป็นสัญชาติใด ให้ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น และเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องร่วมกันทำให้ดีขึ้น

ในขณะนี้ รัฐบาลพยายามสร้างความสมดุลย์มุ่งพัฒนาประเทศในทุกภาคส่วน ทั้งในภาคของการเกษตร ภาคของสินค้าและบริการ รวมถึงภาคอุตสาหกรรม ประเทศไทยเป็นประเทศที่เล็กแต่ก็มีศักยภาพที่ได้เปรียบกว่าประเทศอื่น ๆ รัฐบาลจึงจำเป็นต้องเข้ามาดูแลทุกภาคส่วน เชื่อมโยงกันให้ทั่วถึงในทุกภูมิภาค ทั้งการส่งเสริมพัฒนาการเกษตรซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงก็ต้องส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมควบคู่กันไปด้วย อีกทั้งยังต้องดูแลกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจของประเทศด้วย ซึ่งนานาชาติก็ได้มีการให้ความสำคัญกันอย่างจริงจัง

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต่อไปว่า การขับเคลื่อนประเทศไทยในอนาคตจะต้องทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเทคโนโลยีที่ควบคู่ไปกับงานวิจัยและพัฒนาที่มากขึ้น ซึ่งในขณะนี้ต่างประเทศก็พร้อมที่จะเข้ามาดำเนินการลงทุน ซึ่งนั่นก็เป็นความจำเป็นว่าด้วยเรื่องงบประมาณที่จะเข้ามาสนับสนุนประเทศ สร้างแรงจูงใจให้ต่างประเทศเข้ามาดำเนินการลงทุน โดยลดภาษี แต่ก็ต้องสร้างผลประโยชน์ให้แก่ประเทศตามไปด้วย แต่สิ่งสำคัญที่สุดจะต้องพัฒนาประเทศควบคู่กับการอนุรักษ์รักษาธรรมชาติไปพร้อมกัน

นอกจากนี้ รัฐบาลได้ร่างแผนในการดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชนเพื่อให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนเพิ่มขึ้นจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งกองทุนพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ หรือการจัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเตล็ด ทั้งหมดนี้ก็เพื่ออำนวยความสะดวกในการอนุมัติเรื่องการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมและผังเมืองเพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการออกใบอนุญาต

ตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณอุตสาหกรรมที่ให้ความร่วมมือและกล่าวชื่นชมยินดีที่ทุกภาคส่วนได้เล็งเห็นความสำคัญของแนวคิดด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ใหม่ ซึ่งจะเป็นการจุดประกายพลังสร้างสรรค์ให้กับกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเกิดแรงบันดาลใจในการพัฒนาธุรกิจของตนเอง ให้สามารถแข่งขันกับกลุ่มตลาดประชาคมอาเซียน และในระดับสากลได้ต่อไป

---------------------------------------------

ฝ่ายยุทธศาสตร์และแผนงานการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ