รอง นรม. วิษณุ เป็นประธานมอบรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี ประจำปี พ.ศ. 2559 เพื่อต่อยอดการบริหารประเทศที่ดีได้ต่อไป

ข่าวทั่วไป Wednesday February 22, 2017 13:55 —สำนักโฆษก

รอง นรม. วิษณุ เป็นประธานมอบรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี ประจำปี พ.ศ. 2559 เพื่อต่อยอดการบริหารประเทศที่ดีได้ต่อไป

วันนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2560) เวลา 10.00 น. ณ หอประชุมรักตะกนิษฐ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี ประจำปี 2559 จำนวน 74 องค์กร เพื่อยกย่องและเชิดชูองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้มีการพัฒนาการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างยั่งยืน โดยมีผู้ร่วมงาน ประกอบด้วย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน

นายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวรายงานว่า คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีนโยบายในการสนับสนุนและส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้มีการพัฒนาระบบการบริหารงานไปสู่การบริหารจัดการที่ดี จึงได้มีการอนุมัติเงินอุดหนุนเพื่อเป็นรางวัลให้แก่องค์กร ส่วนท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่อง โดยองค์กรฯ ที่ได้รับรางวัลนั้นจะต้องผ่านเกณฑ์ที่คณะอนุกรรมการฯ ได้กำหนด จะต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาการบริหารจัดการ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมและมีนวัตกรรมท้องถิ่นที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ เพื่อให้องค์กรฯ ได้นำเงินไปใช้ในการดำเนินงานเพื่อถ่ายโอนผลประโยชน์ให้กับประชาชน ซึ่งจะต้องรายงานผลความก้าวหน้าในการใช้จ่ายเงินรางวัลดังกล่าวให้กับคณะอนุกรรมการฯ ทราบภายใน 6 เดือน นับจากที่ได้รับเงินรางวัล อีกทั้ง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรียังมุ่งหวังให้องค์กรฯ ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ จะพัฒนาการดำเนินงานเพื่อต่อยอดไปสู่การประกวดในระดับสากล อันจะเป็นการสร้างชื่อเสียงเกียรติยศให้กับประเทศชาติต่อไป

โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวมอบนโยบายในตอนหนึ่งว่า การปกครองของประเทศไทยตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันนั้น เป็นการปกครองในแบบของการกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปสู่ระดับภูมิภาค โดยให้ประชาชนในแต่ละท้องถิ่นพื้นที่มีส่วนร่วม และให้อำนาจในการบริหารจัดการปกครองท้องถิ่นซึ่งกันและกันได้โดย รัฐบาลมีหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลสนับสนุนในเรื่องของงบประมาณ และกิจกรรมอื่นที่ส่วนภูมิภาคไม่สามารถทำเองได้ ซึ่งหลักการดังกล่าว เป็นไปตามแนวทางพระราชดำริที่พระบาทสมเด็จพระพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ได้ทรงริเริ่มการปกครองจากระดับล่างมาสู่ระดับบน เช่นที่มีมาตั้งแต่ในอดีต

อย่างไรก็ตาม ในการกระจายอำนาจการปกครองจากส่วนกลางสู่ท้องถิ่นนั้น รัฐบาลได้จัดองค์กรสามหน่วยงานในการดำเนินงานดังกล่าว คือ กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมการปกครอง และคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีต้นสังกัดที่แตกต่างกันเพื่อการถ่วงดุลอำนาจไม่ให้รวมอยู่ในฝ่ายเดียว อีกทั้งยังดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุน พร้อมสร้างแรงกระตุ้นในการบริหารจัดการขององค์กรการปกครองท้องถิ่น โดยดำเนินการ จัดพิธีมอบโล่วันสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี สร้างแรงจูงใจ โดยการมอบเงินทุนจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีปริมาณมากพอที่จะนำไปต่อยอดในการบริหารจัดการในส่วนขององค์กรตนเองได้ ผ่านกระบวนการการตัดสินจากหลักเกณฑ์ ที่รัดกุม และมีมาตรฐาน จากหน่วยงานระดับประเทศ เพื่อแสดงให้เห็นว่า องค์กรที่ได้รับรางวัลดังกล่าว มีความสามารถขององค์กรอย่างเห็นได้ชัด ผ่านทางโครงการที่ตนเองได้นำเสนอเพื่อเข้ารับรางวัล อีกทั้งยังทำให้องค์กรที่ได้รับรางวัลดังกล้าว เกิดความภาคภูมิใจที่สามารถสร้างกิจกรรมโครงการ ด้วยความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ตัวเอง ที่สามารถนำไปเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อื่น ๆ ที่จะนำไปต่อยอดสู่การพัฒนาการบริหารจัดการการปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดีได้อย่างยั่งยืนต่อไป

นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมองค์กรที่ไดรับรางวัลในปีนี้ ในการเสนอโครงการในพื้นที่ทุกโครงการ ได้ดำเนินกาได้อย่าวงสอดคล้องกับนโยบายยุทธศาสตร์ชาติ ที่จะนำพาประเทศไทยพัฒนาก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยนวัตกรรมใหม่ ซึ่งรัฐบาลเองได้มุ่งหวังให้ประชาชนในทุกภาคส่วนทั่วประเทศ สามารถคิดต่อยอดนำนวัตกรรมมาช่วยในการส่งเสริมยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้ได้มากที่สุด ทำให้เกิดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4.0 ในลำดับต่อไป อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเข้าใจถึงศักยภาพที่มีแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ จึงไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ที่ตายตัวว่าจะต้องเดินหน้าไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ได้ในทุกหน่วยงาน มุ่งหวังเพียงให้ทุกภาคส่วนทุกพื้นที่ สามารถริ่เริ่มและพัฒนาให้ได้มากที่สุดตามกำลังความสามารถของตัวเองก็เพียงพอแล้ว ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานเพื่อการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศให้เกิดการพัฒนายกระดับชีวิตที่ดีให้กับประชาชน ร่วมกันอย่างเป็นประชารัฐ. ที่ทุกคนมีส่วนร่วมทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ เพื่อนำประเทศไทยก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป

ตอนท้าย รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมองค์กรที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ว่า ควรภาคภูมิใจที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ พร้อมฝากให้นำความภาคภูมิใจดังกล่าว สร้างเป็นกำลังใจและแรงผลักดันในการพัฒนาโปรแกรมเพื่อยกระดับต่อยอดไปสู่การแข่งขันการนำเสนอการบริหารจัดการที่ดี ในระดับนานาชาติ ที่จะเป็นการสร้างชื่อเสียงและเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่มาสู่ประเทศไทยได้ต่อไปในอนาคต

--------------------------------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ