นรม. เป็นประธานเปิดงานและเยี่ยมชมนิทรรศการงาน “ตลาดนัดเปิดโลกผลงานวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยพบผู้ใช้” พร้อมย้ำให้นำงานวิจัยและนวัตกรรมมาขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาประเทศมากขึ้น

ข่าวทั่วไป Friday July 21, 2017 14:26 —สำนักโฆษก

จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และเครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย (Research University Network : RUN)

วันนี้ (20 กรกฎาคม 2560) เวลา 09.30 น. ณ ห้อง World Ballroom โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานและเยี่ยมชมนิทรรศการงาน “ตลาดนัดเปิดโลกผลงานวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยพบผู้ใช้” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และเครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย (Research University Network : RUN) ด้วยความร่วมมือของสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผู้ร่วมงานประกอบด้วยคณะผู้บริหารจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ตลอดจนผู้แทนสื่อมวลชนรวมทั้งสิ้นประมาณ 500 คน

โอกาสนี้ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานฯว่า ตามที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนเพื่อการพัฒนาประเทศและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันระดับนานาชาติ โดยการใช้การวิจัยและนวัตกรรมเป็นเครื่องมือในการนำพาประเทศให้หลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง นำไปสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้สูง เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันด้วยความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยีชั้นสูง โดยมีนโยบายของรัฐบาลช่วยกันผลักดันให้เกิดการนำเอาผลงานวิจัยด้านนวัตกรรมต่าง ๆ ที่มีอยู่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ไปสู่การเพิ่มมูลค่าทางการค้า การลงทุน รวมถึงการนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ทั้งเพื่อพัฒนาชุมชน สังคม และความมั่นคงของประเทศโดยรวมอย่างแท้จริง ทั้งนี้ มีมหาวิทยาลัย 4 แห่ง มาร่วมจัดแสดงนิทรรศการและผลงานวิจัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลับขอนแก่น เพื่อเป็นต้นแบบก่อนที่จะขยายผลไปสู่มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนต่อไป โดยจะนำผลงานนวัตกรรมจากการวิจัยไปสร้างมูลค่าใน 3 กลุ่มเศรษฐกิจหลักที่เป็นจุดแข็งของประเทศตามโมเดล Thailand 4.0 คือ 1. เศรษฐกิจฐานชีวภาพ (Bio-based Economy) ซึ่งเน้นด้านเกษตรและอาหาร สุขภาพ พลังงาน และวัสดุชีวภาพ 2. เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) เน้นด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและอินเทอร์เน็ตออฟติง เครื่องมืออัจฉริยะและหุ่นยนต์ 3. เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) เน้นการบริการเพิ่มมูลค่าจากงานสร้างสรรค์และวัฒนธรรม และPremium OTOP ตามลำดับ

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดงานฯ ว่า การวิจัยและนวัตกรรมถือได้ว่าเป็นปัจจัยที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศในทุกมิติ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ ด้านชุมชน และสังคม หรือแม้กระทั่งด้านความมั่นคงของประเทศในองค์รวม ดังจะเห็นได้ว่าประเทศที่ประสบความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจและมีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี ล้วนแล้วแต่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านการวิจัยและการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ

นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำอีกว่าพืชเศรษฐกิจที่มีปัญหาด้านราคาในขณะนี้ ได้แก่ ข้าว ยางพารา และปาล์ม แต่ก็ยังมีศักยภาพอยู่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นต้นทางในการคิดวิจัยต่าง ๆ และนำประเทศเข้าสู่ “Thailand 4.0” โดยเร็ว ทั้งนี้ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากกับดักประเทศกำลังพัฒนาที่มีรายได้ปานกลาง ไปสู่ประเทศพัฒนาแล้วหรือประเทศที่มีรายได้สูง ซึ่งนอกจากจะอาศัยความได้เปรียบจากปัจจัยต่าง ๆ ที่ประเทศมีอยู่เดิมแล้ว ได้แก่ ความหลากหลายทางชีวภาพ และความหลากหลายทางวัฒนธรรมแล้ว ยังมีความจำเป็นต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรมเป็นกลไกในการปรับโครงสร้างการพัฒนาประเทศตาม “ศาสตร์พระราชา” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานแนวทางดังกล่าวไว้ให้แก่ปวงชนชาวไทยมากมาย และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทุกคนได้ปฏิบัติตามอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม

ตอนท้ายของการกล่าวเปิดงานฯ ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมผลงานของทั้ง 4 มหาวิทยาลัยดังกล่าว ที่เป็นต้นแบบสำคัญในการพัฒนาประเทศ พร้อมกล่าวขอบคุณภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันเดินหน้าประเทศไทยอย่างพร้อมเพรียงกัน

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เป็นสักขีพยานในการลงนามสัญญา ความร่วมมือในการถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างมหาวิทยาลัย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) หน่วยงานผู้ใช้ผลงานวิจัย และภาคเอกชน พร้อมเดินเยี่ยมชมนิทรรศการฯ ด้วยความสนใจและทักทายผู้มาร่วมงานด้วยอัธยาศัยอันดี

.................................................................

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ