รอง นรม.พล อ.อ.ประจินฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2560

ข่าวทั่วไป Thursday October 12, 2017 15:55 —สำนักโฆษก

รอง นรม.พล อ.อ.ประจินฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ พร้อมเผยที่ประชุมมีมติเห็นชอบการแก้ไขปัญหาการระงับการใช้ความเค็มในการเพาะลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืดตามนโยบายของรัฐบาล

วันนี้ (12 ตุลาคม 2560) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2560 ซึ่งสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาการระงับการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด ทั้งนี้ เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2559 โดยกำหนดให้มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 6/2553 และคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 7/2559 ประกาศห้ามเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยใช้ความเค็มในพื้นที่ชั้นตะกอนทะเลลึกกว่า 1.5 เมตร และพื้นที่ห้ามเลี้ยงสัตว์น้ำตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด พร้อมทั้งออกกฎกระทรวงประกาศกำหนดให้การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำโดยใช้ความเค็ม เป็นกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม รวมทั้งให้คณะกรรมการประมงประจำจังหวัดประกาศ กำหนดเขตพื้นที่การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำโดยใช้ความเค็ม ในพื้นที่ที่นอกเหนือจากประกาศคำสั่งนายกรัฐมนตรีดังกล่าวด้วย

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบการประกาศให้ปลากัดเป็นสัตว์น้ำประจำชาติไทย โดยจะนำเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไปในเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ สืบเนื่องจากปลากัดไทยเป็นปลากัดที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทยมายาวนาน ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาขณะเดียวกัน คนไทยนิยมเลี้ยงปลากัดกันอย่างกว้างขวาง และต่อมากรมประมงได้มียุทธศาสตร์ปลาสวยงามตั้งแต่ พ.ศ. 2556 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ด้วยการสนับสนุนให้เกษตรกรหันมาเลี้ยงปลากัดกันอย่างกว้างขวาง เพื่อสร้างความเข้มแข็งในการจำหน่ายปลากัดผ่านออนไลน์ไปทั่วโลก พร้อมปรับเปลี่ยนเกษตรกรสู่การเป็นผู้ประกอบการเลี้ยงปลากัดเพื่อจำหน่าย ซึ่งมีมูลค่าการจำหน่ายในแวดวงการค้าปลากัดกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ส่งผลดีต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจบนพื้นฐานของการเชื่อมโยงภาคการเกษตร อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการค้าอย่างครบวงจร ขณะเดียวกัน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้เคยมอบนโยบายแก่กรมประมง ว่า “ทุกอย่างต้องนำไปสู่การต่อยอดเพื่อพัฒนาตนเอง อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ AEC” ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกรมประมงที่ได้วางยุทธศาสตร์ ด้านการสร้างมูลค่าเพิ่มและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ดังเช่น ปลากัดสีสวยสดดั่งธงชาติไทยที่ชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก โดยบริษัท Apple ได้ใช้เป็น Wallpaper โชว์ใน Iphone 6s และ Iphone 6s Plus ด้วยฝีมือการถ่ายภาพโดยช่างภาพคนไทย ส่งผลให้เกิดการขยายผลต่อธุรกิจการซื้อขายปลากัดไทย จากฟาร์มต่าง ๆ ในประเทศไทยไปยังลูกค้าชาวต่างชาติครอบคลุมไปทั่วโลก

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมรับทราบนโยบายการส่งเสริม พัฒนา และแก้ไขปัญหาการประมงนอกน่านน้ำไทย โดยได้กำหนดกรอบยุทธศาสตร์ไว้ 4 ด้าน ได้แก่ 1) การจัดทำฐานข้อมูลเกี่ยวกับการประมงนอกน่านน้ำไทยและเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 2) การปรับโครงสร้าง พัฒนาศักยภาพองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อพัฒนาการประมงนอกน่านน้ำไทย โดยมีการพัฒนาบุคลากรภาครัฐและภาคเอกชน การจัดตั้งกองทุนพัฒนาศักยภาพการทำประมงนอกน่านน้ำไทย การพัฒนาการใช้เครื่องมือประมงที่อนุญาตตามกฎหมาย พร้อมปรับปรุงท่าเทียบเรือและสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อรองรับเรือประมงนอกน่านน้ำและเรือขนถ่ายสัตว์น้ำของไทย 3) การหาแหล่งประมงนอกน่านน้ำที่มีศักยภาพทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคี และ 4) การบริหารจัดการและควบคุมดูแลการทำประมงนอกน่านน้ำไทย ด้วยการป้องกันมิให้เรือประมงไทยทำผิดกฎหมาย พร้อมพัฒนาระบบติดตาม ควบคุม และเฝ้าระวังระบบติดตามเรื่องประมงไทยและระบบการรายงานข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตลอดจนมีการจัดการด้านคุ้มครองสวัสดิภาพและความปลอดภัยของลูกเรือ และเรือประมงนอกน่านน้ำของไทย ดังเช่น กรณีที่ถูกจับกุมในต่างประเทศ หรือการถูกโจรสลัดปล้นเรือ หรือการขอเทียบท่าในกรณีฉุกเฉิน รวมทั้งการประสบภัยพิบัตินอกน่านน้ำไทยด้วย ทั้งนี้ โดยมีการจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจ เพื่อการช่วยเหลือต่าง ๆ ดังกล่าวให้มีผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมและชัดเจน

ตอนท้ายของการประชุมได้รับทราบกรณีกรมเจ้าท่าดำเนินโครงการพัฒนาระบบเพื่อการตรวจพิสูจน์ตัวบุคคลของแรงงานภาคประมง โดยเทคโนโลยี Biometrics ระยะที่ 1 ซึ่งเป็นระบบพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคลของแรงงานที่ปฏิบัติงานบนเรือประมง สามารถตรวจสอบย้อนกลับป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร และการสวมตัวของแรงงานประมงไร้สัญชาติ โดยตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2560 กรมเจ้าท่าได้เริ่มนำเทคโนโลยีระบบสแกนใบหน้า (Face Scan System) มาใช้ในการออกใบอนุญาตให้ทำงานในเรือประมงตามมาตรา 285 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างจัดเก็บข้อมูลใบหน้าของแรงงานประมงไทยและแรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบควบคู่กับระบบฐานข้อมูลการสแกนม่านตา (Iris Scan System) จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีข้อสั่งการในการประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย โดยได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางานดำเนินการประสานกับกรมเจ้าท่า เพื่อถ่ายโอนฐานข้อมูลการสแกนม่านตาของกลุ่มแรงงานในกิจการประมงมาไว้ที่กรมการจัดหางาน ทั้งนี้ เป็นไปตามข้อสั่งการของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อคราวเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2560 โดยสั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องและคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติเร่งดำเนินการสำรวจ และจัดทำฐานข้อมมูลแรงงานประมงทั้งหมดให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบันตามมาตรฐานสากล ให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายในเดือนพฤศจิกายน 2560

...........................................................................................

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ