เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี

ข่าวทั่วไป Wednesday November 29, 2017 15:53 —สำนักโฆษก

?เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี

วันนี้ (วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน 2560) เวลา 10.00 น. นายลง วิซาโล (H.E. Mr. Long Visalo) เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้

นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่นายลง วิซาโล ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยและได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายพระราชสาส์นตราตั้ง เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 และในโอกาสนี้ ได้กล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมฝากความระลึกถึงสมเด็จกิตติพฤฒบัณฑิต บุน รานี ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา

ทั้งสองฝ่ายพอใจกับความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-กัมพูชา มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอให้เร่งรัดความร่วมมือระหว่างกันตามผลการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (Joint Cabinet Retreat: JCR) ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 3 ที่กรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2560 ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ตั้งเป้าหมายการค้าที่จะเพิ่มมูลค่าระหว่างกันให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ฝ่ายไทยยินที่จะแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการพัฒนาคุณภาพสินค้า ซึ่งฝ่ายกัมพูชาแสดงความสนใจที่จะส่งผู้แทนเข้ามาศึกษาการพัฒนาสินค้าของไทยเช่นกัน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเล็งเห็นถึงความสำคัญของการขจัดและป้องกันการลักลอบสินค้าผิดกฎหมายระหว่างพรมแดนไทย – กัมพูชา

เอกอัครราชทูตกัมพูชาแสดงความขอบคุณฝ่ายไทยที่ส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะที่ไทยจะส่งมอบรถไฟดีเซลให้แก่ฝ่ายกัมพูชา โดยที่เจ้าหน้าที่ของฝ่ายกัมพูชาจะเข้ารับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการเดินรถและบำรุงรักษารถจากฝ่ายไทย เพื่อให้สามารถนำรถดังกล่าวไปใช้ให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยินดีกับการสร้างทางรถไฟ อรัญประเทศ – ปอยเปต บนระยะทาง 6.5 กิโลเมตร ที่มีความคืบหน้าอย่างมาก พร้อมยังเร่งรัดให้จัดทำความตกลงการเดินรถไฟร่วมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

นายกรัฐมนตรียังให้ความมั่นใจว่าแรงงานกัมพูชามีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย และยืนยันที่จะให้ความสำคัญกับการดูแลแรงงานกัมพูชา ซึ่งขอให้ฝ่ายกัมพูชาให้ความร่วมมือกับการดำเนินการของรัฐบาลไทย เพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการเร่งรัดกระบวนการพิสูจน์สัญชาติให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับการเปิดจุดผ่านแดนถาวร ซึ่งจะมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานงานกันเกี่ยวกับการดำเนินการต่อไป โดยในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีแสดงความเชื่อมั่นในความรู้ความสามารถของเอกอัครราชทูตกัมพูชาและยืนยันว่ารัฐบาลไทยพร้อมจะร่วมมือกับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย – กัมพูชาให้แน่นแฟ้นขึ้นในทุกด้าน พร้อมอวยพรเอกอัครราชทูตกัมพูชาให้ประสบผลสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ