นายกรัฐมนตรี กล่าวให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี

วันนี้ (16 มกราคม 2561) เวลา 13.30 น. ณ บริเวณห้องโถงชั้นล่าง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวให้กำลังใจเนื่องในวันครู พร้อมให้แนวทางในการปฏิบัติเนื่องจากปฏิรูปทางการศึกษา โดยมีการแยกเป็น 2 กรณี เพื่อให้เกิดภาพที่ชัดเจน เรื่องการปรับองค์กรภายใน และเรื่องการแก้ปัญหาเชิงบริหาร ในส่วนด้านการศึกษาก็จะมีอีกโครงสร้างหนึ่งในการปฏิรูป ต้องให้ประชาชนทราบถึงผลสัมฤทธิ์ที่เกิดจากการปฏิรูปที่ผ่านมาโดยรัฐบาลได้ดำเนินการมาแล้วหลายโครงการ เช่นติวฟรีดอทคอม ซึ่งสามารถศึกษาได้ทางมือถือ โดยได้นำอาจารย์เก่ง ๆ มาสอนให้ความรู้ อีกทั้ง เดือนนี้เป็นเดือนที่สำคัญมีทั้งวันเด็กและวันครู ซึ่งเป็นกลไกหลักในการพัฒนาบุคลากรของประเทศ ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง และเป็นไปตามพระบรมราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้รองรับกับอนาคตข้างหน้า

ในส่วนเรื่องการจับสถานบริการ วิคตอเรียซีเครท ได้ให้แนวทางที่ชัดเจนไปแล้วให้ดูในเรื่องกฎหมายให้ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ซึ่งมีความผิดทั้งผู้ประกอบการ และทั้งผู้ที่ไปสนับสนุนผู้ประกอบการด้วย ซึ่งหากพบเจ้าหน้าที่กระทำความผิดก็จะถูกลงโทษด้วย และได้เร่งให้ทำการสอบสวน และขยายผลโดยเร่งด่วน ด้านกฎหมายยกเลิกคำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องไปดูรายละเอียดในแต่ละข้อ ซึ่งมีจำนวนมากโดยอาจยกเลิกบางข้อ และมาดูว่าจะต้องไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยต้องมีหลักคิดที่ถูกต้อง

สำหรับประเด็นกรณี อดีต 8 รัฐมนตรีเข้ามาเป็นกรรมการที่ปรึกษานั้น เนื่องด้วยเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ที่สำคัญเคยร่วมทำงานกับรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่องและมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของปัญหาต่าง ๆ ของบ้านเมืองเป็นอย่างดี จึงมีหน้าที่สนับสนุนการทำงานของรัฐบาลและของนายกรัฐมนตรี ในการชี้แจง เรื่องของการสร้างความรู้ความเข้าใจ ในการประชาสัมพันธ์ในเรื่องต่าง ๆ เพราะถือว่าทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน เป็นครอบครัวในการทำงานของนายกรัฐมนตรี และมุ่งทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ นอกจากนี้ ในเรื่องสถานณ์การการค้ามนุษย์ รัฐบาลมีความคาดหวัง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทำของเราให้ดี ซึ่งเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการและเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องดำเนินการต่อไป และอีกเรื่องที่น่ายินดี การประกาศประเทศที่มีปัญหาเรื่องการละเมิดลิทธิ์ ซึ่งไม่พบรายชื่อประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงผลงานของรัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการจับกุม กวาดล้าง ปราบปรามปัญหาประมงผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ และอื่น ๆ อีกมากมายอย่างต่อเนื่อง

ส่วนประเด็นเรื่องประชาธิปไตย “ไทยนิยม” มีหลายคนเสนอข่าวสารบิดเบือน นำเสนอไปว่าจะนำไปสู่ประชาธิปไตยที่เป็นสากลได้หรือไม่อย่างไร ซึ่งเป็นการนำเสนอข่าวที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตยแบบไหนก็ตามจะต้องไม่ทิ้งกลไก หรือทิ้งสาระสำคัญของคำว่า “ประชาธิปไตย” ต้องสร้างจิตสำนึกร่วมกันให้ได้ ไทยนิยมของนายกรัฐมนตรีคือทำอย่างไรให้คนไทยทุกคนไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

ส่วนเรื่องการปลูกกัญชา 5,000 ไร่ เพิ่งได้รับทราบข้อมูล ต้องมาดูกันว่าต่างประเทศติดตามเรื่องนี้กันอย่างไร การทำอะไรก็แล้วแต่ ต้องมีมาตรการในการควบคุม รวมถึงการแพร่ระบาดยาเสพติดทุกประเภท ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ยังรับไม่ได้กับเรื่องเหล่านี้ ต้องค่อย ๆ ศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ

ตอนท้ายของการให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ตามแผนการปฏิรูป และการแก้ปัญหาความยากจน โดยได้มีการสั่งการตั้งคณะกรรมการนโยบายขับเคลื่อน เพื่อใช้งบประมาณทุกกระทรวง ทบวง กรม มาสอดรับกับความต้องการของประเทศ เชื่อมโยงในเรื่องของการปรองดองสมานฉันท์ มาตรการการแก้ไขความยากจน ซึ่งมีแบ่งออกหลายกลุ่มงานด้วยกัน ตั้งแต่ระดับรัฐบาลลงไปสู่ระดับภาค ระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล พร้อมทั้งมีการตั้งคณะทำงาน 7,800 กว่าชุด เพื่อสอบถามความต้องการของประชาชน เพื่อสนับสนุนและหาแนวทางที่ประชาชนมีความต้องการที่สำคัญแตกต่างกัน ซึ่งจะนำรูปแบบจากทางประเทศจีนมา เป็นสูตรที่ทางรัฐบาลคิดไว้อยู่แล้ว ซึ่งมีความใกล้เคียงกัน และบังเอิญตรงกับที่ทางรัฐบาลจีนทำมาในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และจะทำต่อไปอีก 5 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ เป็นสิ่งที่รัฐบาลมีความมุ่งมั่น ซึ่งมีผลต่องบประมาณรายจ่ายประจำปี ดำเนินตามแผนงาน เช่น การลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ระยะที่ 1 ระยะที่ 2 เป็นการทำเพื่อประชาชน สร้างให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ทำให้ผู้ที่เดือดร้อนอยู่ในเวลานี้ มีความสุข ไม่ได้ทำเพื่อการเมือง ต้องมาดูว่าสิ่งที่ทำในปัจจุบันนี้ตรงกับความต้องการของประเทศหรือไม่ โดยเฉพาะรัฐบาลทำมาแล้ว 3 ปี มีอะไรที่แก้ไขไปแล้วบ้าง ทั้งในเชิงฟังชั่น ในเชิงนโยบาย อะไรที่เร่งรัดในการพัฒนา การลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ระยะที่ 2 มี ข้อกำหนด และต้องมีการแจ้งความประสงค์ว่าจะนำไปทำอะไร มีข้อกำหนดระเบียบการชัดเจน โดยครั้งแรกเป็นการสร้างแรงจูงใจให้คนมาลงทะเบียนในแบบประชานิยม ส่วนครั้งที่ 2 เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะใช้งบประมาณให้คุ้มค่าที่สุด และให้เกิดความโปร่งใสมากที่สุดด้วย

.................................................................................................................

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th