รมต.นร. สุวพันธุ์ฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ครั้งที่ 1/2561

ข่าวทั่วไป Monday March 19, 2018 16:17 —สำนักโฆษก

ประธานการประชุมฯ มีมติเห็นชอบดำเนินคดีแพ่งกับผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 13 เรื่อง พร้อมย้ำดำเนินคดีเด็ดขาดกับผู้จำหน่ายลวดดัดฟันแฟชั่น หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

วันนี้ (16 มีนาคม 2561) เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม 109 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ครั้งที่ 1/2561 ซึ่งสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

ที่ประชุมรับทราบรายงานการวิเคราะห์ผลการแก้ไขปัญหาของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 รายงานผลการจัดทำร่างกฎหมายว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจัดตั้งองค์กรที่มีความอิสระและอำนาจในการเป็นตัวแทนของผู้บริโภค พร้อมการสนับสนุนด้านการเงินจากรัฐ ตามมาตรา 46 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 รวมทั้งรายงานผลการดำเนินการเกี่ยวกับสินค้าอันตราย (ลวดดัดฟันแฟชั่น)

ทั้งนี้ ประเด็นลวดดัดฟันนั้น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้ออกคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 1/2561 เรื่อง ห้ามขายสินค้าอุปกรณ์ดัดฟันแฟชั่น โดยพิจารณาแล้วเห็นว่าสินค้าอุปกรณ์จัดฟันแฟชั่นเป็นสินค้าที่อาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค ทั้งการใส่อุปกรณ์จัดฟันแฟชั่นอาจใช้เครื่องมือและกระบวนการที่ไม่สะอาด อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพอนามัยในช่องปาก โดยทำให้เกิดฟันผุ ฟันผิดรูป หรือเกิดการระคายเคือง หรืออักเสบของอวัยวะภายในช่องปากและติดเชื้อจนเป็นอันตรายถึงชีวิต และจากข้อมูลผลการทดสอบของกรมวิทยาศาสตร์บริการและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า มีสารปนเปื้อนซึ่งเป็นโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว พลวง ซีลีเนียม โครเมียมและสารหนู หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ประกอบธุรกิจด้วยการเป็นผู้ผลิตเพื่อขาย หรือสั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับโดยหากพบเห็นการจำหน่ายดังกล่าวสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนสคบ. หมายเลข 1166

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติให้ดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจด้านสินค้าและบริการทั่วไป (ธุรกิจให้บริการเลี้ยงเด็ก ดูแลผู้ป่วย และผู้สูงอายุ ธุรกิจสนามกอล์ฟ ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ธุรกิจโรงเรียนโยคะ และธุรกิจน้ำเที่ยว) จำนวน 12 เรื่อง และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 13 เรื่อง (บ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียม) อาทิ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (โครงการอาคารชุดอีควิน็อกซ์ พหล – วิภา) บริษัท แอล ยู เค พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท นันท์นรินทร์ จำกัด (โครงการนันท์นรินทร์(บิสซิเนโอ) นาวง-ดอนเมือง) บริษัท เอี่ยมสยาม จำกัด (โครงการอโยธยา เพลส อาคารชุดวังน้อย ตึก 2) บริษัท บ้านราชประสงค์ จำกัด (มหาชน) (โครงการ ดิ เอนเนอรืจี้ หัวหิน-ชะอำ) จำนวน 6 คดี บริษัท ดีเวล แกรนด์ แอสเสท จำกัด (โครงการ D’Memoria Phaholyothin 8 Condominium) บริษัท ฮัมมัม เดคคอเรทีฟ จำกัด (โครงการ บุราสิริ เกาะแก้ว จ.ภูเก็ต) บริษัท วิน โปร เอ็นจิเนียร์ จำกัด (โครงการ เดอะมาร์ค รัชดา-แอร์พอร์ตลิงค์) และบริษัท เอ.ดี.เฮ้าส์ จำกัด (โครงการเดอะ แกรนด์ จอมเทียน บีช พัทยา)

.................................................................

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ