รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันขณะนี้ สามารถควบคุมการแพร่ระบาดโรคพิษสุนัขบ้า ทั้งในคนและสัตว์ แนะหากถูกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกัด ข่วน ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

ข่าวทั่วไป Thursday March 22, 2018 16:10 —สำนักโฆษก

รองนายกรัฐมนตรี พลเอก ฉัตรชัยฯ แจงผลการดำเนินงานสำคัญด้านสังคมตามนโยบายรัฐบาลในกิจกรรม “สื่ออยากรู้ รัฐบาลอยากเล่า” กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันขณะนี้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดโรคพิษสุนัขบ้าทั้งในคนและสัตว์ หากถูกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกัดให้พบแพทย์ทันที

วันนี้ (21 มีนาคม 2561) เวลา 13.00 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ชี้แจงถึงผลการดำเนินงานสำคัญด้านสังคมตามนโยบายรัฐบาลในกิจกรรม “สื่ออยากรู้ รัฐบาลอยากเล่า” ครั้งที่ 2 โดยมี นายปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงถึงการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิ์ทุกที่” และเรื่องการแพร่ระบาดโรคพิษสุนัขบ้า โดยมีสื่อมวลชนเข้าร่วมซักถามในประเด็นดังกล่าว

รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการปฏิบัติงานของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ว่า นอกจากปฏิบัติงานตามภารกิจประจำหรืองาน function แล้ว ยังต้องมีการปฏิบัติงานตามนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำและให้ความสำคัญในเรื่องของการลดความเหลื่อมล้ำ การให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐได้อย่างทั่วถึง การสร้างทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีเพื่อวางรากฐานของประเทศในอนาคต ขณะเดียวกันการทำงานในปัจจุบันต้องดำเนินการควบคู่กัน 2 ด้าน คือ 1) การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับประชาชน ซึ่งต้องดำเนินการโดยทันที และ 2) การทำงานต่าง ๆ ที่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ ตลอดจนสอดคล้องและตรงกับความต้องของประชาชนอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต้องมีการบูรณาการทำงานร่วมกัน และบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน รวมทั้งการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในสังคม ทั้งภาคประชาสังคม เอกชน และประชาชน เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ สิ่งสำคัญของการทำงานทุกอย่างให้คำถึง outcome หรือผลสัมฤทธิ์ของงานมากกว่าจำนวนและปริมาณของงานที่ออกมา อีกทั้ง ต้องมีการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานหรือโครงการต่าง ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล ให้ประชาชนและสังคมได้รับทราบ โดยขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการเผยแพร่ข้อมูล และขยายผลการดำเนินงานต่าง ๆ ของรัฐบาลให้ประชาชนได้รับทราบอีกทางหนึ่งด้วย

รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเน้นย้ำถึงการทำงานของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ว่า ต้องดูแลประชาชนตั้งแต่ก่อนเกิดจนถึงเสียชีวิต เด็ก ผู้หญิง และคนพิการจะต้องได้รับการดูแล ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยงานหลักในการเตรียมแผนรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในอนาคต โดยให้บูรณาการทำงานร่วมกับทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องและทุกภาคส่วนในการเตรียมแผนดังกล่าว และนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการดำเนินการ ตลอดจนการดูแลในเรื่องที่พักอาศัยของผู้มีรายได้น้อย เป็นต้น

ด้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวถึงเป้าหมายของการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขว่า ให้ประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุข และระบบสุขภาพยั่งยืน โดยกำหนดให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นองค์กรหลักด้านสุขภาพที่จะรวมพลังสังคมให้ประชาชนสุขภาพดี ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะประสบความสำเร็จได้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และประชาชนต้องร่วมมือกัน

รวมทั้ง กระทรวงสาธารณสุขได้มีการดำเนินนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิ์ทุกที่” (Universal Coverage for Emergency Patients :UCEP) ถือเป็นครั้งแรกที่คนไทย “ทุกสิทธิ์การรักษา” (สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ประกันสังคม และอื่น ๆ ) สามารถเข้ารับบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินที่มีมาตรฐานในโรงพยาบาลของรัฐทุกสังกัด และโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่ใกล้ที่สุดหรือไปถึงเร็วที่สุด โดยไม่ต้องสำรองจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลในช่วง 72 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้นจะได้รับการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลต้นสังกัดหรือโรงพยาบาลที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิต ลดความพิการ และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งจากผลการดำเนินงานดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยส่วนใหญ่ โดยตั้งแต่เริ่มโครงการ (1 เมษายน 2560 - วันที่ 28 กุมพาพันธ์ 2561) จนถึงปัจจุบันมีผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตเข้าร่วมโครงการ จำนวน 15,000 ราย และมีการติดตามประเมินผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มีการลงนามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อเตรียมจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ โดยมีนายอำเภอเป็นประธาน และมีสาธารณสุขอำเภอเป็นเลขานุการ เพื่อให้ทุกอำเภอมีการดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างทั่วถึงทุกกลุ่มจนถึงระดับฐานราก รวมถึงบูรณาการการใช้จ่ายงบประมาณในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริงและเกิดผลเป็นรูปธรรม

พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวถึงการแพร่ระบาดโรคพิษสุนัขบ้าในขณะนี้ว่า โรคพิษสุนัขบ้าเกิดจากสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นพาหะ เช่น สุนัข แมว หรือแม้แต่ค้างคาว ฯลฯ เพราะฉะนั้นในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดูแลหรือฉีดวัคซีนให้กับสัตว์ต่าง ๆ ที่เป็นพาหะ ขณะเดียวกันในส่วนของคนก็ต้องมีการระวังและดูแลตนเอง โดยเมื่อถูกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกัด ข่วน หรือมีแผลแล้วถูกน้ำลายสัตว์ดังกล่าว ให้รีบไปปรึกษาและพบแพทย์หรือผู้รู้ทันที

ทั้งนี้ ระยะที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมปศุสัตว์ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และภาคประชารัฐ ดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งขณะนี้สามารถควบคุมและจำกัดพื้นที่ไม่ให้มีการระบาดกระจายออกไปเป็นอย่างดี โดยพบมีผู้เสียชีวิตจนถึงปัจจุบัน จำนวน 6 ราย พร้อมขอความร่วมมือสื่อมวลชนเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลต่าง ๆ ให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อจะได้ปฏิบัติตนเองได้อย่างถูกต้องปลอดภัย

“ยืนยันว่าขณะนี้ การควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ทั้งในคนและในสัตว์ ประเทศไทยสามารถดำเนินการได้เป็นอย่างดีที่สุดประเทศหนึ่งในขณะนี้ที่มีการแพร่ระบาดของโรคนี้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

---------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ