ไทย – สาธารณรัฐเกาหลี เห็นพ้องที่จะเพิ่มมูลค่าการค้า การลงทุนระหว่างกัน

ข่าวทั่วไป Wednesday May 16, 2018 15:11 —สำนักโฆษก

ไทย – สาธารณรัฐเกาหลี เห็นพ้องที่จะเพิ่มมูลค่าการค้า การลงทุนระหว่างกัน

วันนี้ (16 พฤษภาคม 2561) เวลา 15.30 น. นายเพค อุน-กยู (H.E. Mr. Paik Un-gyu) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า อุตสาหกรรมและพลังงาน สาธารณรัฐเกาหลี นำคณะนักธุรกิจเกาหลีใต้ จำนวน 180 คน เข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรียินดีและเป็นเกียรติที่ได้มาพบกับคณะนักธุรกิจเกาหลีใต้ในวันนี้ ไทยและเกาหลีใต้มีความสัมพันธ์ที่ดีและยาวนานในทุกระดับมาตลอดระยะเวลา 60 ปี และด้วยความสัมพันธ์อันแนบแน่นทำให้เกาหลีใต้เป็นคู่ค้าอันดับ 10 ของไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีหวังว่าทั้งสองประเทศจะเพิ่มมูลค่าการค้าให้บรรลุ 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2563 ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายร่วมกัน

รัฐบาลขอเชิญชวนนักธุรกิจเกาหลีใต้ให้มาลงทุนในโครงการ EEC ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ดีที่สุดและทันสมัยที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์การลงทุนรองรับด้วยความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมทั้งเชื่อมโยงด้วยโครงสร้างพื้นฐานการขนส่ง โดยไทยมีแผนการลงทุนที่จะเปลี่ยนให้ภาคตะวันออกของไทยเป็นประตูสู่เมียนมา เวียดนาม ลาว กัมพูชา และจีนตอนใต้ ซึ่งประกอบด้วยโครงการสำคัญๆ อาทิ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา การก่อสร้างรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง และโครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด

นอกจากนี้ ไทยยังมีแผนงานการลงทุนเพื่อยกระดับและพัฒนา EEC ให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Eastern Economic Corridor of Innovation: EECi) ซึ่งจุดเด่นของ EECi คือ เป็นเมืองนวัตกรรม (Innovation City) ที่เป็นต้นแบบของการพัฒนางานวิจัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมในลักษณะองค์รวม ซึ่งในฐานะที่เกาหลีใต้มีความเป็นเลิศในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูง และประสบความสำเร็จอย่างมากในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม จึงหวังว่าเกาหลีใต้จะเข้ามาร่วมมือกับไทยเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่นี้ต่อไปในอนาคตด้วยกัน

รัฐบาลมุ่งผลักดันประเทศไทยเข้าสู่โมเดล “ประเทศไทย 4.0” ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในภาคอุตสาหกรรมไทย ที่จะก้าวเข้าสู่ยุคที่ให้ความสำคัญกับการผลิตด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง โดยมุ่งเน้นพัฒนา 5 อุตสาหกรรมอนาคต (New S-Curve) ได้แก่ (1) หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม (2) อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ (3) อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ (4) อุตสาหกรรมดิจิทัล และ (5) อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร ซึ่งมีความสอดคล้องกับนโยบาย The 4th Industrial Revolution ของประธานาธิบดีมุน แช-อิน

รัฐบาลยังได้แก้ไขกฎหมายการส่งเสริมการลงทุน และออกมาตรการเพื่อเร่งรัดการลงทุนเพิ่มเติม โดยเพิ่มสิทธิประโยชน์และการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของนักลงทุนจำนวนมาก เพื่อขจัดอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ ปราศจากคอรัปชั่น มีความโปร่งใส สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจแก่นักลงทุนไทยและต่างประเทศ

ในเดือนมิถุนายนนี้ ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดกับกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ในกรอบ ACMECS โดยจะมีการรับรองแผนแม่บทที่ก่อให้เกิดการเชื่อมโยงทางโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคแบบไร้รอยต่อ การสอดประสานด้านเศรษฐกิจ และการสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพและยั่งยืน เพื่อให้กลุ่มประเทศสมาชิก ACMECS เติบโตไปพร้อมกัน ดังนั้น ด้วยวิสัยทัศน์ดังกล่าวทั้งของไทยและภูมิภาค ประกอบกับมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่าง ๆ จึงหวังว่า เกาหลีใต้จะพิจารณามาร่วมเป็นหุ้นส่วนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกับไทย ซึ่งจะเป็นการพัฒนาเครือข่ายเส้นทางคมนาคมในการเชื่อมโยงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับภูมิภาคอื่น ๆ ด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียินดีที่ทราบว่ามีการจัดสัมมนา “Maekyung Thailand Forum” เพื่อฉลองในโอกาสครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ จึงหวังว่างานดังกล่าวจะเป็นโอกาสให้นักธุรกิจเกาหลีใต้ทุกท่านได้รับฟังข้อมูลด้านการค้าและการลงทุนที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในอนาคต

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า อุตสาหกรรมและพลังงานเกาหลีใต้ และประธานบริษัท เม-คยอง มีเดีย กรุ๊ป ที่ได้นำคณะนักธุรกิจเกาหลีใต้เยือนไทยในครั้งนี้ พร้อมขอบคุณที่เกาหลีใต้เชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย

อนึ่ง ในช่วงต้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า อุตสาหกรรมและพลังงานเกาหลีใต้ ได้กล่าวว่า รู้สึกประทับใจต่อการต้อนรับของฝ่ายไทย โดยการนำคณะนักธุรกิจเกาหลีใต้มาเยือนไทยในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างไทย - เกาหลีใต้ ทั้งนี้เกาหลีใต้มีนโยบาย New Southern Policy ซึ่งให้ความสำคัญกับภูมิภาคอาเซียนอย่างมาก และเห็นว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคที่สามารถเป็นประตูของเกาหลีใต้ในอาเซียนได้ นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังมีเป้าหมายที่จะเดินหน้าเศรษฐกิจไปสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลเกาหลีใต้ยินดีสนับสนุนให้นักธุรกิจเกาหลีใต้เข้ามาลงทุนในโครงการต่าง ๆ ของไทย

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ