นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) กล่าวว่า ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รมว.อุตสาหกรรม ได้มอบหมายให้ กนอ.ดำเนินมาตรการป้องกันความปลอดภัยแก่ชุมชมรอบมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ หลังเกิดเหตุถังบรรจุสารเคมีของบริษัท บีเอสที อิลาสโตเมอร์ส จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดระเบิด และก๊าซคลอรีนของ บมจ.อดิตยา เบอร์ล่า เคมีคัลส์(ประเทศไทย) จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออกเกิดการรั่วไหล จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและลบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
"รัฐมนตรีอุตสาหกรรมมีนโยบายในการให้ความสำคัญเรื่องสวัสดิภาพความปลอดภัยของประชาชนเป็นลำดับแรก จึงได้มอบหมายให้การนิคมฯ เข้าไปดูแลสวัสดิภาพของชุมชนอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพของมาตรการดูแลด้านความปลอดภัยแก่ชุมชนให้เข้มข้น" นายวีรพงศ์ กล่าว
สำหรับมาตรการดังกล่าว ประกอบด้วย 1.ให้กระทรวงอุตสาหกรรมจัดตั้งศูนย์ประมวลข้อมูล ณ จุดเดียว เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องแก่ประชาชนอย่างทันท่วงทีเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน 2.กระทรวงอุตสาหกรรม และ กนอ.จะร่วมกับชุมชนจัดทำแผนฉุกเฉินสำหรับชุมชน รวมทั้งให้ผู้ประกอบการจัดทำแผน CSR และตัวชี้วัด การฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินชุมชนโดยสม่ำเสมอ และจัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้นำชุมชนและชุมชนในเรื่องของสารเคมี และการเตรียมตัวอย่างเหมาะสมในสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมการจัดหาอุปกรณ์ความปลอดภัยให้แก่ชุมชน และ 3.ให้ กนอ.ตรวจสอบระบบตรวจสอบและระบบแจ้งเตือน ด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย รวมทั้งทดสอบ เพิ่มประสิทธิภาพระบบกระจายข่าวชุมชนให้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับชุมชนในด้านข้อมูลข่าวสาร
นอกจากนี้ กนอ.ยังได้มอบหมายให้ กนอ.ดำเนินมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการสื่อสาร ได้แก่ การจัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือการสื่อสารที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพและความพร้อมเพียงพอ, การเสนอข้อมูลข่าวสารที่สื่อสารไปยังชุมชนจะต้องถูกต้อง ชัดเจน และเข้าใจง่าย, จัดหาบุคลากรผู้ทำหน้าที่ในการสื่อสารจะต้องมีทักษะในการทำความเข้าใจกับประชาชน, การให้ความรู้กับประชาชนในชุมชน ทั้งในเรื่องของสารเคมีเบื้องต้นและการเตรียมตัวอย่างเหมาะสมในสถานการณ์ฉุกเฉิน, การเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยสำหรับประชาชนในชุมชน, การจัดทำแผนฉุกเฉินชุมชนและการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ