โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 แถลงการณ์แสดงความเสียใจเหตุคนร้ายยิงถล่มร้านน้ำชา

ข่าวทั่วไป Tuesday December 11, 2012 16:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนขับรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ สีบรอนท์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ ใช้อาวุธสงครามยิงใส่ร้านน้ำชา บ้านบาดามูเวาะห์ ม.1 ต.ตังหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ช่วงเช้าวันที่ 11 ธ.ค.55 เป็นเหตุให้ราษฎรเสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บ 5 รายนั้น ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการกระทำอย่างโหดเหี้ยมของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งมีความสุดโต่งทั้งแนวความคิดและการกระทำอย่างไร้มนุษยธรรม รวมทั้งถือเป็นการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนต่อพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างร้ายแรง

สิ่งที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงพยายามดำเนินการมาตลอดห้วงเวลาที่ผ่านมา คือ การข่มขู่ ขู่เข็ญ คุกคาม และทำร้ายพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ให้ตกอยู่ความหวาดกลัวและยอมจำนน พร้อมทั้งได้สร้างสถานการณ์ความขัดแย้งให้เกิดความหวาดระแวงต่อกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน หรือระหว่างประชาชนด้วยกันมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างสถานการณ์ทำร้ายพี่น้องประชาชนและปล่อยข่าวลือหรือบิดเบือนให้สังคมเข้าใจผิดและมีความเชื่อว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ

ในประเด็นดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอเรียนให้ทราบว่าตลอดห้วงระยะเวลาที่ผ่านมาได้ใช้นโยบายและแนวทางในการแก้ปัญหาโดยยึดหลักการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นธรรม และการไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการไม่ย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเคร่งครัดเสมอมา และไม่มีเหตุผลหรือความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องทำร้ายพี่น้องประชาชน

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนได้แสดงพลังต่อต้านการก่อเหตุรุนแรงในทุกรูปแบบ เพราะได้สร้างความสุญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เป็นการกระทำที่เป็นเผด็จการ สุดโต่งทางความคิด ละเมิดต่อสิทธิมนุษยชน และขัดต่อบทบัญญัติของศาสนาอิสลามมาโดยตลอด ดังนั้นจึงขอให้พี่น้องประชาชนได้รวมพลังและประกาศจุดยืนยุติความรุนแรงเพื่อนำสันติสุขกลับคืนสู่พื้นที่โดยเร็ว

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะเร่งติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมมาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมายให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งจะเร่งประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าวอย่างเร่งด่วนต่อไป พร้อมทั้งจะยังคงดำรงความมุ่งหมายในมาตรการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอย่างเต็มกำลังความสามารถ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ