ศปถ.สรุปช่วง 7 วันอันตราย ตาย 322 เจ็บ 3,225 นครราชสีมาเสียชีวิตมากสุด

ข่าวทั่วไป Friday April 18, 2014 12:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน(ศปถ.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2557 แล้ว พร้อมสรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนรวม 7 วันช่วงรณรงค์ "ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย สงกรานต์ทั่วไทยไร้อุบัติเหตุ" เกิดอุบัติเหตุรวม 2,992 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 322 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 3,225 คน

"รัฐบาลมุ่งป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนอย่างเป็นรูปธรรม โดยผลักดันกลไกการบังคับใช้กฎหมายควบคู่กับการดำเนินมาตรการทางสังคม พร้อมเร่งเสริมสร้างความรู้และปลูกจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนน เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน พ.ศ.2554-2563 ที่มีเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้ต่ำกว่า 10 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน" นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กล่าวในฐานะประธานปิด ศปภ.

โดยสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 17 เม.ย.57 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์ฯ เกิดอุบัติเหตุ 238 ครั้ง(ปี 2556 เกิด 247 ครั้ง) ลดลง 9 ครั้ง ร้อยละ 3.64 มีผู้เสียชีวิต 43 ราย(ปี 2556 เสียชีวิต 37 ราย) เพิ่มขึ้น 6 ราย ร้อยละ 16.22 และมีผู้บาดเจ็บ 299 คน (ปี 2556 บาดเจ็บ 257 คน) เพิ่มขึ้น 42 คน ร้อยละ 16.34

สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนดร้อยละ 25.21 เมาแล้วขับร้อยละ 21.43 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ร้อยละ 80.40 รถปิคอัพร้อยละ 8.40 พฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัยร้อยละ 21.64 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรงร้อยละ 60.08 บนถนนทางหลวงแผ่นดินร้อยละ 42.86 ถนน อบต.และหมู่บ้านร้อยละ 39.92 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 12.01-16.00 น. ร้อยละ 26.05 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน(อายุ 20-49 ปี) ร้อยละ 44.44 ทั้งนี้ ศปถ.ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,275 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 67,002 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 597,820 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 90,182 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช ตรัง และราชบุรี(จังหวัดละ 12 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 4 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี 30 คน

ทั้งนี้ส่งผลให้สถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงรณรงค์ฯ รวม 7 วัน(11-17 เม.ย.57) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,992 ครั้ง (ปี 2556 เกิด 2,828 ครั้ง) เพิ่มขึ้น 164 ครั้ง ร้อยละ 5.80 มีผู้เสียชีวิตรวม 322 ราย(ปี 2556 เสียชีวิต 323 ราย) ลดลง 1 ราย ร้อยละ 0.31 และมีผู้บาดเจ็บรวม 3,225 คน(ปี 2556 บาดเจ็บ 3,040 คน ) เพิ่มขึ้น 185 คน ร้อยละ 6.09 สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาแล้วขับร้อยละ 36.76 ขับรถเร็วเกินกำหนดร้อยละ 24.47 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ร้อยละ 79.14 รถปิคอัพร้อยละ 11.39 พฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัยร้อยละ 21.99 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรงร้อยละ 62.60 ถนน อบต.และหมู่บ้านร้อยละ 38.74 บนถนนทางหลวงแผ่นดินร้อยละ 36.83 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น.ร้อยละ 32.95 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 52.13 ทั้งนี้ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 116 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 14 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 144 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต(ตายเป็นศูนย์) จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท เพชรบุรี อ่างทอง พังงา และยะลา อำเภอที่ไม่มีผู้เสียชีวิต(ตายเป็นศูนย์) จำนวน 664 อำเภอ พื้นที่กรุงเทพมหานครจำนวน 44 เขต จังหวัดที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงในช่วงเทศกาลสงกรานต์เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรหนึ่งแสนคน ได้แก่ อุทัยธานี 2.13 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน สมุทรสงคราม 1.55 คนต่อประชากรหนี่งแสนคน

"ในภาพรวมการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2557 เป็นที่น่าพอใจระดับหนึ่ง" นายจารุพงศ์ กล่าว

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดี ปภ.ในฐานะเลขานุการ ศปถ.กล่าวว่า ปภ.จะได้ประสานให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดจัดประชุมบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สรุปปัญหาอุปสรรคจากการทำงานและจัดทำข้อเสนอแนะ มาตรการ แนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ เพื่อกำหนดเป็นยุทธศาสตร์แผนงานโครงการของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดที่ต่อเนื่องทั้งในช่วงเวลาปกติและช่วงเทศกาลสำคัญ พร้อมรวบรวมส่งให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณากำหนดเป็นยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนของประเทศซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาลให้เป็นรูปธรรม เพื่อให้ถนนทุกสายของประเทศไทยเป็นเส้นทางแห่งความปลอดภัยอย่างยั่งยืน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ