สนามบินสุวรรณภูมิเผยเพิ่มมาตรการเข้มงวดเฝ้าระวังเชื้ออีโบลาจาก 3 ปท.เสี่ยง

ข่าวทั่วไป Friday August 1, 2014 17:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงคมนาคม ชี้แจงว่า ด่านควบคุมโรค ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เริ่มเข้มงวดเฝ้าระวังผู้เดินทางที่มาจากประเทศกินี ไลบีเรีย และเซียร์รา ลีโอน ตั้งแต่ 8 มิถุนายน 2557 เป็นต้นมา เมื่อข่าวการระบาดของอีโบล่าในต่างประเทศมีความรุนแรงมากขึ้น และรายงานผลการเฝ้าระวังให้แก่ผู้บริหารเป็นประจำทุกสัปดาห์

ก่อนหน้านี้ ทางด่านฯ ได้มีระบบการเฝ้าระวังเหตุการณ์ผิดปกติทางสาธารณสุขในต่างประเทศโดยการติดตามข่าวสารและสถานการณ์โรคระบาดต่างๆในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง (Media surveillance) มาตั้งแต่ปี 2555 ด้วยระบบนี้ทำให้ด่านฯ สามารถติดตามสถานการณ์ของ ข่าวสารการระบาดของโรคต่างๆในต่างประเทศ รวมทั้งข่าวการระบาดของโรคอีโบล่ามาตั้งแต่ต้น

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการอื่นๆ ประกอบด้วย จัดเจ้าหน้าที่ และเจ้าพนักงานสาธารณสุขประจำด่านฯ ยืนสังเกตุผู้เดินทางที่มีอาการสงสัยป่วย ที่หน้าประตูทางเข้าเพื่อแยกผู้ป่วย เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พร้อมกับจัดแสดงป้ายคำเตือนประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้แก่ผู้เดินทาง มากกว่า 10 จุดทั่วสนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งจุดรอรับสัมภาระ อีกทั้งประชุมร่วมกับ ฝ่ายแพทย์ ท่าอากาศยานไทยเพื่อทบทวนแนวทางการแจ้งเตือน การดูแลผู้ป่วย และการส่งต่อผู้ป่วย

ทางด่านฯ ยังแจ้งเครือข่ายผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในสนามบิน ได้แก่ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สายการบิน เป็นต้น เพื่อให้ทราบสถานการณ์ ผ่านคณะทำงานพัฒนาสมรรถนะหลักช่องทางเข้าออกประเทศ ตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ.2548

และยังมีการตรวจคัดกรองผู้เดินทางสงสัยป่วย โดยการสังเกตุและให้ผู้เดินทางสำแดงเอกสารสำแดงสถานะสุขภาพของผู้เดินทาง (health declaration form หรือ แบบ ต.8) และแจกคำแนะนำด้านสุขภาพแก่ผู้เดินทาง (health beware card) โดยในเอกสารคำแนะนำสุขภาพ มีสาระสำคัญว่า ให้ผู้เดินทางสังเกตุอาการเจ็บป่วยของตนเองขณะอยู่ในเมืองไทย หากเจ็บป่วยรีบพบแพทย์ พร้อมแจ้งประวัติเจ็บป่วย หากมีข้อสงสัยโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค

รวมทั้งประสานขอความร่วมมือเจ้าเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ในการส่งผู้เดินทางจากประเทศที่มีการระบาด ในช่วง 21 วันที่ผ่านมา ให้มาตรวจคัดกรองที่ด่านควบคุมโรคฯ

ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2557 จนถึง ปัจจุบัน มีผู้เดินทางจาก ทั้ง 3 ประเทศจำนวนทั้งสิ้น 285 คน ส่วนใหญ่มาจากประเทศกินี ทั้งนี้ส่วนใหญ่ร้อยละ 73 เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรคเกิน 21 วัน และไม่พบผู้เดินทางที่มีอาการสงสัยว่าป่วย จากการตรวจสอบข้อมูลกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พบว่า ผู้เดินทางจาก 3 ประเทศดังกล่าวนิยมเดินทางเข้ามาประเทศไทยผ่าน ช่องทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นหลัก โดยมียอดผู้เดินทางเข้า-ออกประเทศประมาณ 30-50 คน ต่อ สัปดาห์โดยส่วนใหญ่ถือวีซ่าท่องเที่ยว ไม่มีเครื่องบินบินตรงจากประเทศดังกล่าว

ผู้เดินทางนิยมเดินทางจากประเทศต้นทางมาเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินเคนย่าและต่อเครื่องมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ สายการบินที่ผู้เดินทางจากสามประเทศดังกล่าวนิยมคือ สายการบินเคนย่าแอร์ไลน์ และเอธิโอเปียแอร์ไลน์ ซึ่งเดินทางมาประเทศไทย สองเที่ยวต่อวัน

อนึ่ง ผู้เดินทางที่มาจากสามประเทศดังกล่าวเป็น 3 ใน 45 ประเทศ ที่ประเทศไทยกำหนดให้ต้องแสดงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เหลือง ตามประกาศของกรมควบคุมโรค ดังนั้นผู้เดินทางทุกคนจากทั้งสามประเทศต้องให้เจ้าพนักงานสาธารณสุขประจำด่าน ตรวจประเมินทุกรายก่อนตรวจลงตราเข้าประเทศผลการดำเนินงานเฝ้าระวังโรคอีโบลา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ