กรมชลฯ แนะชาวนาลุ่มเจ้าพระยางดทำนาปรัง ลดความเสี่ยงผลผลิตเสียหาย

ข่าวทั่วไป Sunday October 19, 2014 17:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุด เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 5,755 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 43 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 1,955 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 5,711 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 2,861 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 738 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 79 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 695 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 799 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 83 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 796 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมทั้ง 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันประมาณ 6,300 ล้านลูกบาศก์เมตร

อนึ่ง ตามที่กรมชลประทาน ได้มีประกาศแจ้งเรื่องการงดส่งน้ำเพื่อเพาะปลูกข้าวนาปรังในลุ่มน้ำเจ้าพระยาในช่วงฤดูแล้งปี2557/2558 ไปแล้วนั้น เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนในปีนี้อยู่ในเกณฑ์น้อย ไม่เพียงพอที่จะจัดสรรน้ำเพื่อสนับสนุนการทำนาปรังที่ต้องใช้น้ำเป็นจำนวนมากได้ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนต่อไปแล้ว ดังนั้นเพื่อให้ปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่อย่างจำกัดมีเพียงพอใช้อย่างไม่ขาดแคลน จึงขอรณรงค์ให้เกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาร่วมมือกันงดทำนาปรัง เพื่อลดความเสี่ยงต่อผลผลิตที่อาจจะได้รับความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ