"กระทรวงฯ ได้ปรับปรุงรูปแบบ มาตรการ และแนวทางดำเนินงานตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพคนต่างด้าวให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการสร้างหลักประกันสุขภาพให้ครอบคลุมทุกคนบนแผ่นดินไทย เพื่อให้ได้รับบริการสุขภาพที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ โดยออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข 2 ฉบับ ในการสร้างหลักประกันสุขภาพให้ต่างด้าว 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย และกลุ่มแรงงานต่างด้าว พร้อมผู้ติดตาม 4 สัญชาติ ได้แก่ เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา และเวียดนาม รวมทั้งแรงงานตามแนวชายแดนที่ทำงานเช้าไปเย็นกลับ ลงนามเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2558 มีผลบังคับใช้วันที่ 1 เมษายน2558 เป็นต้นไป ทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยจะมีหลักประกันสุขภาพระบบการป้องกันควบคุมโรคจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น" นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สธ.กล่าว
ด้าน นพ.อำนวย กาจีนะ รองปลัด สธ. กล่าวว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับแรกเป็นการตรวจสุขภาพและขายบัตรประกันสุขภาพให้คนต่างด้าวทุกคนที่อยู่นอกระบบประกันสังคม เช่น พ่อค้า เกษตรกร โดยคิดค่าตรวจสุขภาพ500 บาท และบัตรประกันสุขภาพ 2,200 บาท รวม 2,700 บาท เด็กอายุไม่เกิน 7 ปีราคา 365 บาท ไม่มีค่าตรวจสุขภาพ ระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี สิทธิการรักษาครอบคลุมทั้งบริการรักษาพยาบาล สร้างเสริมสุขภาพ และป้องกันควบคุมโรค เช่น การฉีดวัคซีน
ส่วนประกาศฉบับที่ 2 ว่าด้วยเรื่องการตรวจสุขภาพและการขายบัตรประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว 4 สัญชาติ ได้แก่ เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา และเวียดนาม รวมทั้งแรงงานตามแนวชายแดนเมียนมาร์ ลาว กัมพูชาที่เข้ามาทำงานเช้าไปเย็นกลับ หรือตามฤดูกาลผู้ใหญ่กำหนดให้เลือกซื้อบัตรประกันสุขภาพ 3 แบบตามความสมัครใจ คือ คุ้มครอง 1 ปีราคา 2,100 บาท คุ้มครอง 6 เดือน ราคา 1,400 บาท คุ้มครอง 3 เดือนราคา1,000 บาท ซึ่งรวมค่าตรวจสุขภาพแล้ว เด็กอายุไม่เกิน 7 ปี ราคา 365 บาทไม่มีค่าตรวจสุขภาพ คุ้มครอง 1 ปี สิทธิเทียบเท่าหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของไทย เช่น การผ่าตัดการรักษาโรคเรื้อรังที่มีค่าใช้จ่ายสูงการรับยาต้านไวรัสเอชไอวีเป็นต้น
รองปลัด สธ. กล่าวว่า ในการตรวจสุขภาพและขายบัตรประกันสุขภาพได้อำนวยความสะดวกให้คนต่างด้าวและแรงงานต่างด้าวเข้าถึงง่ายขึ้น โดยสามารถติดต่อรับบริการตรวจสุขภาพและซื้อบัตรได้ที่โรงพยาบาลภาครัฐ ทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ ในพื้นที่อยู่อาศัย หรือทำงาน ขณะนี้ได้แจ้งสถานบริการในสังกัดทุกจังหวัด ทุกเขตสุขภาพ เพื่อดำเนินการตามมาตรการและแนวทางประกาศดังกล่าวแล้ว