เช่นเดียวกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็ไม่ได้อาศัยน้ำจากชลประทานขนาดใหญ่อยู่แล้ว แต่อาศัยน้ำฝนและแหล่งน้ำธรรมชาติเป็นหลัก ซึ่งแม้ว่าช่วงนี้ฝนจะน้อยแต่ประเมินแล้วว่าความเสียหายจะไม่รุนแรงเท่าทางลุ่มเจ้าพระยา และอาจจะอาศัยน้ำใต้ดินพอจะช่วยกันไปได้
สำหรับการนำน้ำบาดาลมาใช้นั้น กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจะเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ แต่ก็จะมี 3-4 กระทรวงบูรณาการร่วมกันด้วย
"ภาคที่ไม่ต้องอาศัยอะไรมาก มันมีกลไกในการปรับตัวของภาคเกษตรกรอยู่แล้ว และมาตรการที่มีอยู่ดั้งเดิมแต่ไหนแต่ไร เรื่องการประกาศเขตภัยแล้งในอีสานยังครอบคลุมสถานการณ์ ณ ขณะนี้ ไม่มีอะไรผิดสังเกต ทั้งอีสานและเหนือตอนบน"นายอำนวย กล่าว
นายอำนวย กล่าวอีกว่า ภาครัฐยังย้ำให้เกษตรกรชาวนางดทำนาปีในส่วนของ 22 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยาขณะนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนมีน้อย และฝนตกน้อย โดยเจ้าหน้าที่จะมีกระบวนการติดตามตรวจสอบด้วยเครื่องมือเดืมที่มีอยู่ รวมทั้งมอบหมายให้แต่ละจังหวัดส่งข้อมูลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยแนะนำให้เกษตรกรชาวนาเลื่อนการเพาะปลูกข้าวและพืชที่ใช้น้ำมากออกไปจนถึงปลาย ก.ค.ที่คาดว่าฝนจะตกเพิ่มขึ้น
ส่วนมาตรการช่วยเหลือชาวนาที่ยังปลูกข้าวไม่ได้นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะใช้มาตรการใด แต่ในปีที่ผ่านมาก็เคยมีการแจกเงินชาวนาไร่ละ 1,000 บาท และอาจต้องมีมาตรการเสริมหากถึงขั้นวิกฤติจริง ๆ
แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคงไม่มีการแย่งน้ำกันจนถึงขั้นต้องส่งเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปควบคุมตามเขื่อนและประตูน้ำต่าง ๆ แต่จะเน้นการบริหารจัดการ ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ จัดการปัญหาแบบบูรณาการ แนะนำให้เกษตรกรปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย หรือปลุกพืชอื่นที่ไม่เคยปลูก เช่น ข้าวโพด หรือ เลี้ยงปลา รวมทั้งสร้างงานนอกภาคเกษตร ซึ่งที่ผ่านมาสำนักเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ได้มีการประเมินผลว่ารายได้ของเกษตรกรยังอยู่ในระดับที่ดีแม้ไม่ได้ปลูกข้าวในช่วงที่รัฐบาลขอให้งดทำนาปรัง
ด้านนายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค.นี้เป็นต้นไปจนถึงเดือน ก.ย.ประเทศไทยจะเริ่มมีฝนตกเพิ่มขึ้น ซึ่งโดยปกติช่วงดังกล่าวประเทศไทยจะมีพายุ 1-2 ลูก ถ้าฝนตกในตอนบนมีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ โดยประมาณสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ก.ค.ร่องฝนจะลงมาอยู่ที่บริเวณภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ฝนในภาคเหนือภาคอีสานของไทยเพิ่มขึ้นในช่วงปลายเดือน ก.ค.
"เราคาดว่าฝนน่าจะมาตามเกณฑ์ปกติในช่วงนั้น และจะมีฝนสม่ำเสมอยาวไปถึงปลายเดือนกันยายน...อาจจะไม่ตกทุกวันแต่ความถี่จะมากกว่าช่วงนี้ ภาคเหนือภาคอีสานจะตกมากกว่าช่วงนี้ ส่วนปริมาณฝนอาจจะไม่มาก เพราะเราเผชิญเอลนิญโญ่มาตั้งแต่ต้นปี เวลาร้อนก็ร้อนกว่าค่าเฉลี่ย หน้าฝนๆจะน้อยกว่าปกติ"นายวันชัย กล่าว
ส่วนในภาพรวมเกษตรกรจะเริ่มกลับมาทำนาปีได้หรือไม่นั้น นายวันชัย กล่าวว่า ถ้าช่วงสิงหาคมมีพายุเข้ามาบ้างก็จะมีน้ำสะสมในเขื่อนมากขึ้น หรือหากมีพายุเข้ามามากกว่า 1-2 ลูก สถานการณ์อาจจะพลิกกลับจากแล้งกลายเป็นท่วม ซึ่ง ณ เวลานี้เรายังคาดหมายหรือประเมินสถานการณได้ลำบาก