มท.1 สั่งเตือน 11 จังหวัดรับมืออุทกภัย-วาตภัย-คลื่นลมแรง 24-28 มิ.ย.

ข่าวทั่วไป Tuesday June 23, 2015 15:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย (มท.1) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ประสานผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัด แยกเป็น ภาคกลาง 2 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ 5 จังหวัด ได้แก่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และกระบี่ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม และคลื่นลมแรง โดยตรวจสอบท่อ ทางระบายน้ำในเขตเมืองมิให้มีสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ

รวมถึงตรวจสอบเขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำและคันกั้นน้ำ และสถานที่ท่องที่ยวให้มีความมั่นคงแข็งแรง จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย กรณีสถานการณ์รุนแรงได้เน้นย้ำให้ดำเนินการ

อนึ่ง ปภ.ได้ตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 24-28 มิ.ย.58 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนชุกหนาแน่น อาจส่งผลให้เกิดอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดี ปภ.กล่าวว่า ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย 11 จังหวัดติดตามพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำในแม่น้ำ ลำคลอง ลำธารเปลี่ยนสีเป็นสีขุ่นข้นหรือสีเดียวกับสีดินภูเขา ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ป่าต้นน้ำมากกว่า 100 มม. ต่อวัน เป็นต้น เพื่อจะได้อพยพหนีภัยได้ทันท่วงที

นอกจากนั้น ขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง ห้ามหลบพายุบริเวณใต้ต้นไม้ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เพราะอาจได้รับอันตรายจากการถูกล้มทับ รวมถึงงดเว้นการใช้โทรศัพท์มือถือ เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดบริเวณที่โล่งแจ้ง เพราะอาจเกิดฟ้าผ่า ทำให้ได้รับอันตรายถึงชีวิตได้ ส่วนชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ