สาธารณสุข เผยจ.สงขลา-ยะลา-สตูลพบค่าเฉลี่ยหมอกควันจากไฟป่าเกินมาตรฐาน

ข่าวทั่วไป Monday October 5, 2015 15:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์หมอกควันไฟในภาคใต้ว่า ได้รับรายงานว่า จังหวัดสงขลา ยะลา และสตูล มีค่าเฉลี่ยหมอกควันเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ที่ 171, 144, 141 ตามลำดับ ซึ่งในขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งหน้ากากอนามัยให้ 7 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควัน จังหวัดละ 10,000 ชิ้น คือ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ปัตตานี นราธิวาส ยะลา สตูล และสงขลา และสำรองไว้ที่ส่วนกลางอีก 20,000 ชิ้น พร้อมให้สถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่ เตรียมยาเวชภัณฑ์ที่จำเป็นให้บริการผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง ภาพรวมผลกระทบด้านสุขภาพยังไม่พบประชาชนมีอาการรุนแรง คงให้เฝ้าระวังและให้คำแนะนำประชาชนอย่างต่อเนื่อง

ที่น่าเป็นห่วงคือ 4 กลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบง่ายกว่าคนทั่วไป คือ 1.ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด 2.ผู้สูงอายุ 3.เด็กเล็ก และ4.หญิงตั้งครรภ์ หากไม่จำเป็นขอให้อยู่ในบ้าน งดการออกกำลังกายกลางแจ้ง ให้ดื่มน้ำมากๆ

ด้าน นพ.สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา กล่าวว่า จากการติดตามจากสถานการณ์หมอกควันขณะนี้มีประชาชนได้รับผลกระทบประปราย เช่น แสบตา แสบคอ ยังไม่มีรายใดมีอาการรุนแรงถึงต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งสำนักงานฯ ได้เร่งประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ท้องถิ่น ให้ความรู้การดูแลตัวเอง และรายงานสถานการณ์หมอกควันร่วมกับกรมควบคุมมลพิษวันต่อวัน ให้ประชาชนเตรียมพร้อมอย่างทันท่วงที โดยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

สำหรับการป้องกันผลกระทบสุขภาพจากหมอกควันไฟ ขอให้ประชาชนปฏิบัติดังต่อไปนี้ 1.ปิดประตูหน้าต่างบ้านให้มิดชิด โดยเฉพาะตอนเช้า เนื่องจากหมอกควันจะลอยต่ำเพื่อลดความเสี่ยงการสัมผัสหมอกควัน 2.ควรทำความสะอาดบ้านเพื่อลดปริมาณฝุ่น 3.ใช้หน้ากากอนามัยหรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ปิดปากและจมูกและเปลี่ยนทุกวัน 4.ควรงดการทำกิจกรรมกลางแจ้งชั่วคราว เช่น ออกกำลังกาย เดินเล่น หรือทำงานหนัก เนื่องจากจะเพิ่มการสูดละอองควันไฟเข้าร่างกายมากขึ้น หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ แน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม แสบตา ระคายคอ กรณีของหญิงตั้งครรภ์หากลูกในครรภ์ไม่ดิ้นหรือดิ้นน้อยลง ให้รีบไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ