สธ.กำชับ สสจ.ในพื้นที่ประสบอุทกภัยเฝ้าระวังโรคฉี่หนู-ตาแดงช่วงหลังน้ำลด

ข่าวทั่วไป Saturday December 10, 2016 14:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำชับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคฉี่หนูและตาแดงหลังน้ำลด พร้อมแนะประชาชนให้สวมรองเท้าบู๊ทป้องกันโรคฉี่หนูและการเกิดบาดแผลขณะเดินลุยน้ำย่ำโคลน

ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเฝ้าระวังโรคฉี่หนูหรือโรคเลปโตสไปโรซีส (Leptospirosis) ซึ่งเชื้อโรคนี้อาจปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำขังที่เป็นหลุมบ่อเล็กๆ ซึ่งจะมีปริมาณเชื้อโรคเข้มข้น และเชื้อมีชีวิตอยู่ในน้ำ ดินแฉะๆ ได้นานหลายวัน มีโอกาสติดต่อมาสู่คนได้สูง โดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล รอยถลอกต่างๆ ที่ขาและเท้า หรือแม้กระทั่งผิวหนังที่อ่อนนุ่มจากการแช่น้ำนานๆ โดยดำเนินการเฝ้าระวังผู้ป่วยในพื้นที่เป็นเวลา 15 วันภายหลังน้ำลดและรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันโรค เพื่อป้องกันการป่วยและการเสียชีวิต" นพ.โสภณ เมฆธน ปลัด สธ.กล่าว

นอกจากนี้ยังต้องเฝ้าระวังโรคตาแดง ซึ่งเกิดจากการอักเสบของเยื่อบุตา น้ำสกปรกเข้าตา ติดต่อโดยการสัมผัสคลุกคลีกับผู้ป่วยโรคตาแดง โดยจะมีอาการตาแดง เคืองตา น้ำตาไหล เจ็บตา มักมีขี้ตามาก ตาบวม ประมาณ 5-14 วัน สำหรับการป้องกันโรคนี้ ประชาชนควรล้างมือด้วยน้ำและสบู่ ไม่คลุกคลีใกล้ชิดหรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย อย่าให้แมลงหวี่หรือแมลงวันตอมตา หมั่นดูแลรักษาความสะอาดของร่างกาย และหากป่วยเป็นโรคตาแดง ไม่ควรซื้อยามาหยอดเอง ควรรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที ไม่ควรลงเล่นน้ำในสระหรือคลอง เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายในน้ำ พร้อมทั้งเร่งให้ความรู้ประชาชนกับโรคที่มากับน้ำท่วม เช่น โรคอุจจาระร่วง ไข้หวัดใหญ่ น้ำกัดเท้า เป็นต้น จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ทั้งนี้ จากข้อมูลเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-4 ธ.ค.59 ทั่วประเทศพบผู้ป่วยจากโรคฉี่หนู 2,083 ราย ในภาคใต้พบผู้ป่วย 610 ราย เสียชีวิต 14 ราย และข้อมูลเฝ้าระวังโรคตาแดง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-6 ธ.ค.59 พบผู้ป่วยโรคตาแดงทั่วประเทศ 117,331 ราย ในภาคใต้พบผู้ป่วย 12,890 ราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ