เกิดเหตุเสียงดังคล้ายระเบิดภายในอาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.พระมงกุฎเกล้า เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น.เศษ ซึ่งแรงระเบิดดังกล่าวส่งผลทำให้มีผู้บาดเจ็บจากการถูกเศษกระจกบาดตามร่างกายราว 22-24 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง แต่เบื้องต้นเกิดขึ้นบริเวณท่ออ๊อกซิเจนใกล้กับห้องจ่ายยาบริเวณชั้น 1 แรงระเบิดทำให้กระจกกั้นห้องที่อยู่ใกล้เคียงแตกกระจาย และทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณดังกล่าวได้รับบาดเจ็บจากเศษกระจก แต่ไม่มีผู้ใดเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บสาหัส
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังเดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ กล่าวว่า เบื้องต้นเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมาจากวัตถุระเบิดยังไม่ทราบชนิด รัศมีทำการประมาณ 2-3 เมตร โดยพบชิ้นส่วนแผงวงจรและสายไฟจำนวนหนึ่งในที่เกิดเหตุ ส่วนจะเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่หน้าที่ทำการเดิมของสำนักงานสลากกินแห่งรัฐบาลและหน้าโรงละครแห่งชาติหรือไม่นั้น ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานก่อน
พล.ท.สาโรช เขียวขจี เจ้ากรมการแพทย์ทหารบก แถลงกับสื่อมวลชนว่า ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของเหตุระเบิดดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียด แต่ผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่บาดเจ็บไม่มาก แต่มีจำนวน 3 คนที่จะต้องรอดูอาการ
ขณะนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) กำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ด้านพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานจาก รมว.กลาโหม และ ผู้บัญชาการทหารบกถึงเหตุท่อระเบิดบริเวณห้องจ่ายยานายทหารสัญญาบัตร ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติของ รพ.พระมงกุฎเกล้าในช่วงสายวันนี้ โดยมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย ประมาณ 24 ราย และเตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนก
"เบื้องต้นทางโรงพยาบาลได้ควบคุมพื้นที่เกิดเหตุได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ และให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป"พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สั่งการให้กองทัพบกร่วมกันดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ได้รับผลกระทบให้ดีที่สุด พร้อมทั้งกำชับสั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้บัญชาการทหารบกร่วมกันคลี่คลายสาเหตุที่เกิดขึ้นและติดตามผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว ขณะเดียวกันยังสั่งการให้ควบคุมตรวจเข้มทั้งพื้นที่ชั้นในและชั้นนอกโดยรอบโรงพยาบาลอย่างละเอียดด้วยความไม่ประมาท
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังร่วมกันทำตามหน้าที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อดูแลความปลอดภัยในภาพรวม
นอกจากนั้น โฆษกกระทรวงกลาโหม ยังกล่าวประณามการกระทำดังกล่าวว่า ไม่ว่าเบื้องหลังผู้ก่อเหตุและกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลังจะกระทำด้วยวัตถุประสงค์ใด แต่ถือเป็นพฤติกรรมที่เหี้ยมโหด และไร้มนุษยธรรมอย่างยิ่ง ละเมิดหลักมนุษยธรรมที่เป็นกติกาสากลที่สังคมอารยะพึงยึดถือที่จะต้องไม่สร้างความรุนแรงต่อสถานพยาบาล. บุคลากรทางการแพทย์และผู้เจ็บป่วยที่กำลังรักษาตัว
"ถือเป็นความท้าทายของสังคม ที่ต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนทุกคน ร่วมกันตระหนักและเฝ้าระวังความปลอดภัยในทุกพื้นที่ร่วมกัน"พล.ต.คงชีพ กล่าว
ขณะที่มีรายงานข่าวว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) เรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องเป็นการเร่งด่วนในช่วงบ่ายวันนี้นี้เพื่อติดตามสถานการณ์และตรวจสอบสาเหตุ ภายหลังจากเกิดเหตุระเบิดภายใน รพ.พระมงกุฎเกล้าใกล้กับห้องรับรองนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ชื่อ ห้องวงษ์สุวรรณ ในวันเดียวกับวันครบรอบการทำงาน 3 ปีของ คสช. แม้จะยังไม่มีข้อมูลข่าวว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เชื่อมโยงกันหรือไม่ และยังไม่มีข้อมูลว่าเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้