นายกฯ หารือรมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ฝากชวนเอกชนลงทุน EEC ยันไทยให้ความสำคัญปัญหาค้ามนุษย์-ปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา

ข่าวทั่วไป Tuesday August 8, 2017 18:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังนาย Rex W. Tillerson รมว.ต่างประเทศสหรัฐเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่าไทยให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์และความเป็นพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกาที่มาอย่างยาวนาน และเห็นว่าสหรัฐฯมีบทบาทอย่างมากในประชาคมโลก ทั้งในเรื่องความมั่นคง การค้ามนุษย์ การก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ เป็นต้น โดยประเทศไทยพร้อมให้การสนับสนุนในฐานะประเทศที่มีส่วนรับผิดชอบต่อความมั่นคงและความผาสุขของประชาคมโลก

ทั้งนี้ ไทยและสหรัฐ ได้หารือถึงความร่วมมือทวิภาคีในหลายด้าน ประกอบด้วย ด้านเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันภาคเอกชนของทั้งสองประเทศได้เข้าไปลงทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะช่วยพิจารณาอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนทั้งสองประเทศเข้าไปเพิ่มขึ้น

พล.ท.วีรชน ระบุว่า นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงว่า ไทยกำลังพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ภายใต้นโยบายประเทศไทย 4.0 ซึ่งเป้าหมายสำคัญแห่งหนึ่ง ได้แก่ พื้นที่สนามบินอู่ตะเภาที่จะพัฒนาการใช้งานเชิงพาณิชย์ด้วยอีกภารกิจหนึ่ง โดยมีนักลงทุนสหรัฐฯรายหลายที่สนใจเข้ามาลงทุน ซึ่งนายกรัฐมนตรีหวังว่า เอกชนรายอื่นๆ ของสหรัฐอเมริกาจะให้ความสนใจพิจารณาโอกาสการลงทุนใน EEC และพื้นที่อู่ตะเภาเพิ่มขึ้นอีก

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญกับนโยบายการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายประเทศไทย 4.0 ซึ่งการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้มีพัฒนาการอย่างมากในหลายๆ ด้าน โดยฝากให้สหรัฐอเมริกาพิจารณาทบทวนสถานะของไทยที่ยังคงติดอยู่ในบัญชีประเทศที่เฝ้าจับตามองเป็นพิเศษ หรือ priority watch list

ส่วนประเด็นการต่อต้านการค้ามนุษย์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างสูงตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง และได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติจนถึงปัจจุบัน โดยที่ผ่านมา การดำเนินการมีความคืบหน้าไปอย่างมากในทุกด้าน

ส่วนประเด็นสำคัญในภูมิภาคและของโลก เช่น ประเด็นทะเลจีนใต้ และสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ไทยพร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุน และเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะคลี่คลายสถานการณ์เพื่อความสันติสุขในภูมิภาค รวมทั้งให้ปฏิบัติตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

ในด้านสถานการณ์การเมืองไทย นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลยึดมั่นและดำเนินการตาม Roadmap ที่วางไว้เพื่อให้ประเทศไทยกลับคืนสู่ประชาธิปไตยที่มีคุณภาพและยั่งยืน

ด้านรมว.ต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า ยินดีที่ได้เดินทางมาประเทศไทยในวันนี้ โดยมีความคุ้นเคยกับประเทศไทยเป็นอย่างดี เนื่องจากระหว่างได้เคยดำรงตำแหน่งประธาน Esso Exploration and Production ที่จังหวัดนครราชสีมาเป็นเวลา 3 ปี ทำให้ต้องเดินทางมาประเทศไทยหลายครั้ง

ในส่วนการเดินทางเยือนสหรัฐฯอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี หวังว่าจะได้มีโอกาสต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในเร็วๆนี้ โดยขณะนี้ทั้งสองฝ่ายกำลังหารือถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ