ก.พลังงาน หนุนติดตั้งโซลาร์เซลล์เสริมสร้างศักยภาพไฟฟ้า 3 จังหวัดชายแดนใต้

ข่าวทั่วไป Sunday December 3, 2017 14:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานเล็งเห็นความสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่ยังมีปัญหาเหตุความไม่สงบในพื้นที่ มีการทำลายระบบสายส่งไฟฟ้า และระบบสาธารณูปโภค ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมด้านต่างๆ อาทิ การดูแลรักษาผู้ป่วยในสถานพยาบาล และการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษา

ดังนั้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ นักศึกษา ผู้ป่วย และประชาชนทั่วไป ตลอดจนเพื่อให้สถานศึกษา สามารถดำเนินกิจกรรมด้านการเรียนการสอน และสถานพยาบาลดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องแม้ยามเกิดเหตุความไม่สงบ และเพื่อเป็นพื้นที่รองรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบในยามจำเป็น กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โดยกระทรวงพลังงาน จึงให้การสนับสนุนมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส ดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ขนาดรวม 1,500 กิโลวัตต์ เพื่อใช้ในหน่วยงาน ภายใต้ “โครงการจัดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับใช้งานในโรงพยาบาล วิทยาลัยเทคนิค และหน่วยงานของมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์" โดยการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีงบประมาณ 2561

โครงการดังกล่าวจะมีการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ ในพื้นที่มหาวิทยาลัยและหน่วยงานภายใต้กำกับ ประกอบด้วย 1. ติดตั้งโซลาร์ฟาร์ม ในพื้นที่คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลกัลยาณิวัฒนาการุณย์ และพื้นที่ว่างเปล่าใน ม.นราธิวาสราชนครินทร์ (ส่วนกลาง) ขนาด 1,000 กิโลวัตต์ จำนวน 1 ระบบ และระบบแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง ความจุพลังงานไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 150 กิโลวัตต์ชั่วโมง จำนวน 2 ระบบ 2. ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ขนาด 300 กิโลวัตต์ ณ ม.นราธิวาสราชนครินทร์ วิทยาเขตวิทยาลัยเทคนิคนราธิวาส และ 3. ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ขนาด 200 กิโลวัตต์ ณ ม.นราธิวาสราชนครินทร์ วิทยาเขตวิทยาลัยเกษตรนราธิวาส โดยจะเริ่มดำเนินการติดตั้งประมาณต้นปี 2561

“การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ดังกล่าว จะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าในหน่วยงานได้ 2,006,314 หน่วยต่อปี คิดเป็นมูลค่า 8,326,202 บาท/ปี ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) 1,183 ตันต่อปี และสามารถใช้เป็นระบบผลิตไฟฟ้าสำรองในกรณีเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้สามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้ สาธิตและเผยแพร่เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ให้แก่หน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา องค์กรอื่นๆ และประชาชนทั่วไปในอนาคต" ดร.ทวารัฐกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ