กรมป้องกันฯ เผยยังเหลือสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้อีก 8 จังหวัด ส่วนกระบี่-สตูล-ยะลา คลี่คลายแล้ว

ข่าวทั่วไป Friday December 8, 2017 11:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เผยสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน– 8 ธันวาคม 2560 ทำให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี ยะลา สงขลา พัทลุง ตรัง สตูล ชุมพร นราธิวาส นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และกระบี่ รวม 121 อำเภอ 806 ตำบล 5,612 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 493,539 ครัวเรือน 1,595,485 คน เสียชีวิต 22ราย

ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 3 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ สตูล และยะลา ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 8 จังหวัด รวม 71 อำเภอ 445 ตำบล 3,397 หมู่บ้าน 341,726 ครัวเรือน 1,071,203 คน อพยพ 313 ครัวเรือน 782 คน ประกอบด้วย

ลุ่มน้ำปัตตานี 1 จังหวัด ได้แก่ จ.ปัตตานี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหนองจิก และอำเภอเมืองปัตตานี รวม 20 ตำบล 93 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23,494 ครัวเรือน 88,415 คน ผู้เสียชีวิต 5 ราย

ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา 2 จังหวัด ได้แก่ จ.สงขลา น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสทิงพระ อำเภอควนเนียง อำเภอสิงหนคร อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอบางกล่ำ และอำเภอระโนด รวม 46 ตำบล 328 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 44,547 ครัวเรือน 125,398 คน เสียชีวิต 7 ราย, จ.พัทลุง น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอควนขนุน อำเภอศรีบรรพต อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอกงหรา อำเภอปากพะยูน อำเภอป่าพะยอม อำเภอป่าบอน อำเภอเขาชัยสน อำเภอบางแก้ว และอำเภอตะโหมด รวม 65 ตำบล 651 หมู่บ้าน 19 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 135,282 ครัวเรือน 405,560 คน เสียชีวิต 2 ราย

ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันตก 1 จังหวัด ได้แก่ จ.ตรัง น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง อำเภอนาโยง อำเภอวังวิเศษ และอำเภอกันตัง รวม 30 ตำบล 182 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,757 ครัวเรือน 25,129 คน เสียชีวิต 4 ราย

ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ จ.ชุมพร น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอละแม อำเภอเมืองชุมพร อำเภอทุ่งตะโก อำเภอปะทิว อำเภอพะโต๊ะ อำเภอสวี และอำเภอหลังสวน รวม 54 ตำบล 250 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,471 ครัวเรือน 15,152 คน, จ.นราธิวาส น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอจะแนะ อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอสุคิริน อำเภอระแงะ อำเภอบาเจาะ อำเภอรือเสาะ อำเภอตากใบ อำเภอศรีสาคร อำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงปาดี อำเภอสุไหงโก – ลก และอำเภอแว้ง รวม 75 ตำบล 549 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 50,393 ครัวเรือน 172,691 คน, จ. นครศรีธรรมราช น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 18 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชะอวด อำเภอบางขัน อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอทุ่งสง อำเภอปากพนัง อำเภอสิชล อำเภอนาบอน อำเภอฉวาง อำเภอนบพิตำ อำเภอหัวไทร อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอพรหมคีรี อำเภอทุ่งใหญ่ อำเภอช้างกลาง อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอท่าศาลา และอำเภอถ้ำพรรณรา รวม 157 ตำบล 1,311 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 123,107 ครัวเรือน 391,066 คน เสียชีวิต 2 ราย

ลุ่มน้ำตาปี 1 จังหวัด ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี น้ำไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระแสง อำเภอเวียงสระ อำเภอเคียนซา อำเภอบ้านนาสาร อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอพุนพิน อำเภอไชยา อำเภอกาญจนดิษฐ์ และอำเภอดอนสัก รวม 52 ตำบล 297 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,165 ครัวเรือน 24,767 คน

ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง โดยแจกจ่ายถุงยังชีพตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง พร้อมประสานจังหวัดจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวตามแผนเผชิญเหตุ รวมถึงให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตระดมทรัพยากรและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย ทั้งเต็นท์ที่พัก รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถบรรทุก รถสุขาเคลื่อนที่ เรือท้องแบน และเครื่องสูบน้ำ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังสู่ลำน้ำสายหลัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ