"นพดล" ยันไทยไม่เสียดินแดนแม้ตารางมิลฯ กรณีเขมรขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร

          นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ยืนยันว่า การที่กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารให้เป็นมรดกโลกจะไม่มีพื้นที่ส่วนหนึ่งส่วนใดล้ำเข้ามาในพื้นที่ที่ทั้งสองประเทศอ้างสิทธิทับซ้อน ซึ่งทำให้ไทยสามารถสนับสนุนการขึ้นทะเบียนดังกล่าวของกัมพูชาได้หลังที่กัมพูชาได้จัดส่งแผนที่ใหม่มาให้แล้ว
          "ขอยืนยันว่า ไม่มีส่วนใดในแผนที่ที่ทางกัมพูชาจะขึ้นทะเบียนมรดกโลกทับซ้อนกับพื้นที่ประเทศไทย...ไม่มีส่วนใดของตัวปราสาทรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ของไทยแม้แต่ตารางมิลลิเมตรเดียว" นายนพดล กล่าวแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลวันนี้
          นอกจากนี้ แผนที่ฉบับใหม่ยังได้รับความเห็นชอบจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) และจากคณะรัฐมนตรี โดยได้มอบอำนาจให้นายนพดล ไปลงนามร่างแถลงการณ์ร่วมกับนายสก อาน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อยืนยันข้อตกลงของทั้งสองฝ่ายตามที่ตกลงกันไว้ในการหารือที่กรุงปารีสด้วย
          สำหรับข้อตกลงร่วม 4 ประการระหว่างไทย-กัมพูชา ประกอบด้วย ไทยจะสนับสนุนการขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกซึ่งเสนอโดยกัมพูชา, กัมพูชาจะขอขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทพระวิหาร โดยฝ่ายกัมพูชาจะจัดทำแผนที่ฉบับใหม่แสดงขอบเขตปราสาทพระวิหาร เพื่อใช้แทนแผนที่ฉบับเดิมที่กัมพูชาใช้ประกอบคำขอขึ้นทะเบียน
          และ การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก จะไม่มีผลกระทบต่อสิทธิของแต่ละฝ่ายในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ทั้งสองฝ่ายจะต้องร่วมกันจัดทำแผนบริหารจัดการในพื้นที่ที่อ้างสิทธิทับซ้อนโดยสอดคล้องกับมาตรการอนุรักษ์ระดับสากล เพื่อเสนอคณะกรรมการมรดกโลกพิจารณาภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 ด้วย
          ทั้งนี้ ไทยและกัมพูชาได้บันทึกข้อตกลงไว้เป็นร่างแถลงการณ์ร่วม (Joint Communique) ซึ่งจะลงนามก็ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลของทั้งสองฝ่ายแล้ว
          นายนพดล ยังยืนยันว่า การเจรจาที่ประสบความสำเร็จในครั้งนี้ไม่มีเรื่องของการเจรจาใต้โต๊ะ รับสินบน หรือเอื้อประโยชน์ให้กับประเทศกัมพูชาแต่อย่างใด และเรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีที่หลายฝ่ายจับตาและพยายามเชื่อมโยงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเข้าไปลงทุนธุรกิจในเกาะกง
          "ไม่มีเลย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เวลาผมพูดเรื่องนี้ทุกครั้งก็ถูกมองว่าเป็นอดีตทนายของท่านทักษิณ อย่าให้ผมพูดเลย" นายนพดล กล่าว เพียงแต่ยอมรับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา และโดยส่วนตัวแล้วคงไม่สามารถตีความว่าความสัมพันธ์ที่ดีดังกล่าวจะมีส่วนช่วยสนับสนุนหรือไม่