ศอ.รส.พร้อมหนุนกกต.เดินหน้าจัดเลือกตั้ง ขู่หากขัดขวางดำเนินคดีตามกม.ถึงที่สุด

ข่าวการเมือง Wednesday April 23, 2014 13:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แถลงผลการประชุมในวันนี้ว่า ศอ.รส. ได้รับรายงานเกี่ยวกับการประชุมระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กับหัวหน้าพรรคการเมืองหรือผู้แทนพรรคการเมืองเพื่อหารือการกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป โดยในการประชุมดังกล่าวคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้กำหนดกรอบระยะเวลาในการจัดการเลือกตั้ง 3 แนวทาง คือ วันที่ 20 กรกฎาคม วันที่ 17๗ สิงหาคม หรือวันที่ 14 กันยายน ซึ่งจากการประชุมดังกล่าวยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องวันเลือกตั้ง

ทั้งนี้ ศอ.รส. ขอเรียกร้องให้ กกต. จัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็ว เพื่อจะได้มีรัฐบาลชุดใหม่เข้าบริหารประเทศ และแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติ นอกจากนี้ ศอ.รส. ขอเรียกร้องให้ กกต. ดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันการขัดขวางการเลือกตั้งซ้ำอีก ซึ่ง ศอ.รส. ยินดีให้การสนับสนุนแก่ กกต. เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หากมีการร้องขอ

อย่างไรก็ตาม หากมีการขัดขวางการเลือกตั้งเกิดขึ้นซ้ำอีก ผู้กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด

นอกจากนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการนำตัวผู้ก่อเหตุยิงปืนใส่กลุ่มผู้ชุมนุมของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่หน้าศาลรัฐธรรมนูญ บริเวณศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อวานนี้มาดำเนินคดีโดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม ศอ.รส. มีความกังวลอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์นี้ เนื่องจากแสดงให้เห็นถึงการเผชิญหน้ากันระหว่างมวลชน กปปส. และสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ตามที่ ศอ.รส. ได้ระบุไว้ในแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 ว่าจะเกิดความรุนแรงและเหตุร้ายขึ้น โดยเฉพาะการระดมจัดมวลชนให้มีการชุมนุมใหญ่ทั้งของ กปปส. และ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และกลุ่มอื่นๆ ในลักษณะท้าทายและแข่งขันกัน ภายใต้เงื่อนไขสำคัญคือ การวินิจฉัยขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ 2 องค์กร คือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และศาลรัฐธรรมนูญ

ดังนั้น ศอ.รส. จึงขอเรียกร้องให้แกนนำทุกกลุ่มยุติการชุมนุมและไม่ปลุกระดมเรียกคนเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ เพราะจะเป็นความเสี่ยงอย่างมากที่จะเกิดการกระทบกระทั่ง และก่อเหตุร้ายต่อกัน ซึ่งหากแกนนำยังคงฝ่าฝืนจนเกิดเหตุร้าย แกนนำทุกคนทุกกลุ่มจะต้องรับผิดชอบต่อการทำผิดกฎหมาย ทั้งทางอาญาและทางแพ่ง

พร้อมเรียกร้องให้ทุกองค์กรและทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างตรงไปตรงมาโดยเห็นแก่ความถูกต้องและชาติบ้านเมือง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ