ดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก ขานรับเฟดตรึงดอกเบี้ยยาว-กรีซเจรจาเจ้าหนี้รอบใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 26, 2012 19:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าเดินหน้าขึ้นต่อเนื่องจากที่ปิดตลาดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ ขานรับแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงปี 2557 นอกจากนี้ ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ยังได้รับปัจจัยหนุน หลังมีรายงานว่า การเจรจาเรื่องการสว็อปพันธบัตรระหว่างกรีซและเจ้าหนี้มีความคืบหน้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 23 จุด หรือ 0.2% แตะระดับ 12,711 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าบวก 0.3% แตะที่ 1,324 จุด ณ เวลา 10.44 น.ตามเวลาลอนดอน

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) มีมติด้วยคะแนนเสียง 9-1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0 - 0.25% พร้อมระบุว่า เมื่อพิจารณาจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงอัตราการนำทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์ซึ่งอยู่ในระดับต่ำ และแนวโน้มเงินเฟ้อที่ซบเซาในระยะกลางแล้ว เฟดคาดว่าปัจจัยเหล่านี้จะเอื้ออำนวยให้เฟดสามารถตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษไปจนถึงปี 2557 ได้ ซึ่งถือเป็นการย้ำจุดยืนด้านนโยบายผ่อนคลายทางการเงินและมีเป้าหมายจะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกัน วันนี้ มีรายงานว่านายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรีกรีซ เตรียมเดินหน้าเจรจารอบใหม่กับนายชาร์ลส์ ดัลลารา กรรมการผู้จัดการสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) และนายฌอง เลอเมียร์ ที่ปรึกษาอาวุโสของประธานธนาคารบีเอ็นพี พาริบาส์ ซึ่งเป็นตัวแทนเจ้าหนี้ภาคเอกชน

โดย IIF ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพุธว่า จุดมุ่งหมายของการเจรจาคือ การหาข้อยุติในประเด็นทางเทคนิคและทางกฎหมายสำคัญๆทั้งหมดโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

นอกจากนี้ ตลาดจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจหลายตัวของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ซึ่งได้รับการคาดหมายว่าจะเพิ่มขึ้น ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค.ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.0% หลังจากเพิ่มขึ้น 3.7% ในเดือนพ.ย. รวมถึงเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค.ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนธ.ค.

ขณะที่ในส่วนของภาคเอกชน แคทเทอพิลลาร์ อิงค์, คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ และล็อกฮีด มาร์ติน มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการในวันนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ