คลังสั่งแบงก์รัฐแยกบัญชี 3 บัญชี-ดูแล NPL ไม่มุ่งแข่งขันกับแบงก์พาณิชย์

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 23, 2015 18:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐว่า เป็นการติดตามผลการดำเนินงานและหารือหลักการทำงานในระยะต่อไปของแบงก์รัฐที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามพันธกิจของแต่ละธนาคาร รวมทั้งเติมเต็มช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนด้วย โดยไม่ต้องการให้มุ่งแค่การทำกำไรแต่เพียงอย่างเดียว

ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เร่งประสานกับแบงก์รัฐทุกแห่งในการเร่งแก้ไขกฎหมายของแต่ละธนาคารในส่วนที่จำเป็น หลังจากที่การดำเนินงานเดินหน้าไปช้ามาก โดยการแก้กฎหมายครั้งนี้เพื่อปลดล็อคและเพิ่มบทบาทในการทำงานของแบงก์รัฐให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากขึ้น เช่น บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย(บตท.) บรรษัทสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม(บสย.) และธนาคารออมสิน เป็นต้น

นอกจากนี้ ในปีบัญชีหน้าได้มอบหมายให้ทุกแบงก์รัฐ เสนอคณะกรรมการธนาคารแต่ละแห่งให้มีการแยกบัญชีผลการดำเนินงานออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ บัญชีภาพรวม บัญชีโครงการตามนโยบายรัฐ (PSA) และบัญชีผลการดำเนินงานปกติ เพื่อลดความซ้ำซ้อนทางบัญชีลง รวมถึงให้ทุกแบงก์รัฐเตรียมความพร้อมรองรับผลกระทบที่จะเกิดจากการใช้ระบบ E-Payment ในปีหน้าด้วย ไปจนถึงการเพิ่มความใส่ใจในการยกระบบสถาบันการเงินชุมชนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งส่วนนี้เป็นหน้าที่โดยตรงของธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

"ฐานะทางการเงินของแบงก์รัฐทั้งหมด ส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง แต่มีบางแห่งที่ต้องเร่งดำเนินงานตามแผนฟื้นฟู ส่วนแห่งไหนที่แข็งแกร่งแล้วก็ให้ทำงานตามบทบาทของตัวเอง แต่ย้ำว่าต้องไม่ลงไปแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์ เพียงแต่เข้าไปรองรับในส่วนที่ธนาคารพาณิชย์ไม่สามารถให้บริการประชาชนได้...ต้องดูแลเรื่อง NPL เพื่อให้สามารถสนับสนุนนโยบายของรัฐได้อย่างต่อเนื่อง" ปลัดกระทรวงการคลังกล่าว

พร้อมระบุว่า อาจพิจารณาให้ธนาคารออมสินเข้ามาเป็นพี่ใหญ่ในการดูแลสภาพคล่องของแบงก์รัฐแห่งอื่นๆ ที่มีปัญหา รวมถึงให้เร่งดำเนินการในการดูแลปัญหาหนี้นอกระบบเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันยังมีปัญหาเรื่องนี้อยู่มาก โดยอาจให้เข้ามาดูเรื่องกลไกทางการเงินเพื่อเติมเต็มการเข้าถึงแหล่งเงินของรายย่อย ซึ่งอาจเกี่ยวโยงกับอัตราแลกเปลี่ยนของสถาบันการเงินด้วย

สำหรับในส่วนของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(Exim Bank) นั้น ได้มอบนโยบายให้มีการเพิ่มบทบาทในการสนับสนุนผู้นำเข้าและส่งออกมากขึ้น เช่น การออกมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เป็นต้น


แท็ก บัญชี  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ