น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการเดินทางเพื่อสำรวจพื้นที่ของกลุ่มเครือข่ายแม่น้ำสากลประจำประเทศไทย พบว่าใกล้บริเวณพื้นที่บ้านท่าลานใน สปป. ลาว มีที่พักของคนงานก่อสร้างประมาณ 200 คน และมีการบุกเบิกทางเข้าเขื่อน โดยการกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดกฎหมายนานาชาติ และพันธะของลาวในการปฏิบัติตามข้อตกลงว่าด้วยแม่น้ำโขงฉบับปี พ.ศ. 2538 โดยการสร้างเขื่อนไซยะบุรี ถือว่า สปป. ลาว ไม่ได้ให้ความสำคัญในพันธะที่ตนมีต่อภูมิภาค
นอกจากนี้การประชุม 4 ตัวแทนประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ลาว เวียดนาม กัมพูชา และไทยยังถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยกลุ่มเครือข่ายแม่น้ำสากลได้ให้ข้อสรุปว่า การยุติขั้นตอนข้อตกลง PNPCA แต่เพียงฝ่ายเดียวของลาวโดยไม่ได้รับความยินยอมจากประเทศเพื่อนบ้านนั้น ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงเกี่ยวกับแม่น้ำโขงและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งถ้ารัฐบาลปฏิบัติตามพันธะความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในโครงการดังกล่าว รัฐบาลลาวก็ควรยุติการสร้างสิ่งต่าง ๆ ในพื้นที่บริเวณเขื่อนและเริ่มแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ
ทั้งนี้ การสร้างเขื่อนไซยะบุรี จะเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงสำหรับแม่น้ำโขงและประชาชนในเขตนี้ โดยจะทำให้มีการโยกย้ายชาวบ้านกว่า 2,100 คน และจะส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 200,000 ชีวิต ทั้งยังจะทำให้ปลากว่า 40 ชนิด สูญพันธุ์ไปจากแม่น้ำโขงรวมทั้งปลาบึกด้วย