ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงวันแรกในรอบ 4 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวความขัดแย้งเรื่องการเพิ่มขนาดกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ของผู้นำประเทศยูโรโซน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูการประชุมรัฐสภาเยอรมนีที่จะลงมติเรื่องการเพิ่มขนาดกองทุน EFSF ในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาไทย
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลง 76.42 จุด หรือ 1.4% ปิดที่ 5,217.63 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปอย่างผันผวนหลังจากมีรายงานว่าผู้นำยุโรปมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการเพิ่มขนาดกองทุน EFSF รวมทั้งรายงานข่าวจากไฟแนนเชียล ไทม์สที่ระบุว่า นางแองเกลาร์ แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีกล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือกรีซรอบสองจะขึ้นอยู่กับกลุ่ม Troika ซึ่งประกอบไปด้วยคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่จะประเมินมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซครั้งใหม่
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงเนื่องจากความกังวลที่ว่า หากกรีซผิดนัดชำระหนี้ก็จะส่งผลกระทบต่อภาคธนาคารในยุโรปด้วย โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส์ ดิ่งลง 1.2% หุ้นแบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ร่วงลง 3.6% หุ้นธนาคารเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ร่วงลง 2%
ส่วนหุ้นแมน กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนรายใหญ่ระดับโลก ดิ่งลง 25% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า สินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของแมน กรุ๊ป มีมูลค่าลดลง 8.5%
หุ้นเคร์น เอนเนอร์จี ในกลุ่มพลังงาน ร่วงลง 6.5% ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหลังจากราคาโลหะพื้นฐานในตลาดลอนดอนดิ่งลงอย่างหนัก โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 4.1% หุ้นอันโตฟากัสต้าร่วงล 5.9% และหุ้นเวแดนตา รีซอสเซส ดิ่งลง 3.8%