ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,037.37 จุด ลดลง 5.15 จุด(-0.49%)มูลค่าการซื้อขาย 22,809.86 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ระดับ 1,045.91 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,037.37 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 153 หลักทรัพย์ ลดลง 284 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 169 หลักทรัพย์
นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง ดูด้อยกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวขึ้นไปราว 1% ซึ่งเท่าที่ดูก็ยังไม่เห็นสาเหตุอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวทำให้ตลาดบ้านเราปรับตัวลง ดังนั้นหากให้คาดเดาก็คิดว่าอาจเป็นผลจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดบ้านเราแข็งกว่าตลาดเพื่อนบ้าน และหุ้นขนาดใหญ่อย่างหุ้น PTT เมื่อวานนี้ก็ปิดกระโดด ทำให้วันนี้มีการอ่อนตัวลงบ้าง
"ตลาดบ้านเราวันนี้ดูด้อยกว่าตลาดภูมิภาคค่อนข้างมาก และยังดูแย่กว่าที่นักวิเคราะห์ฯส่วนใหญ่มองไว้ด้วย"นายรักพงศ์ กล่าว
นายรักพงศ์ กล่าวต่อว่า วอลุ่มเทรดของตลาดบ้านเราก็ถือว่ายังน้อยด้วย หากตัดดีลรายการบิ๊กล็อตหุ้น ADVANC ออกไป ซึ่งก็คิดว่านักลงทุนต่างชาติได้ชะลอการลงทุนแล้วในขณะนี้
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายรักพงศ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะอยู่ในทิศทางที่อาจผันผวนได้ เนื่องจากสัปดาห์หน้าเป็นสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ ดังนั้นจึงเชื่อว่าดัชนีฯไม่น่าจะปิดต่ำกว่าระดับ 1,032.76 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดของปีที่แล้ว(2553)นอกจากนี้ยังต้องดูการเทรดของ Lacal Fund ด้วย ถ้ามีการซื้อหนักก็จะทำให้ดัชนีฯขึ้นไปแรง โดยให้แนวรับ 1,032-1,030 จุด ส่วนแนวต้าน 1,050 จุด
ทั้งนี้ ในสัปดาห์มีเรื่องที่น่าติดตามในวันที่ 28-29 ธ.ค.2554 จะมีการประมูลพันธบัตรของอิตาลี ซึ่งควรจะจับตาดูอัตราผลตอบแทน(Yield)ได้ดี ถ้าสูงมากก็อาจจะทำให้ตลาดฯกลับไปกังวลได้อีก
ด้านนายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ถูกขายทำกำไรสวนทางตลาดหุ้นภูมิภาค แต่ในภาพรวมยังเป็นการแกว่งรอปัจจัย ซึ่งคาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีปัจจัยบวกจากแรงซื้อกองทุน LTF-RMF เข้ามา รวมทั้งการทำ Window Dressing ปิดงวดบัญชีสิ้นปี
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายอภิชาติ กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสทำ new high โดยทะลุแนวต้านสำคัญที่ 1,050-1,055 จุดไปได้ โดยต้องรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯในคืนนี้ได้แก่ คำสั่งซื้อสินค้าคงทน, รายได้และการใช้จ่ายของผู้บริโภค และยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนพ.ย.ซึ่งมีแนวโน้มออกมาดี และจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้า พร้อมให้แนวรับ 1,020-1,025 จุด แนวต้าน 1,070 และ 1,080 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TMB มูลค่าการซื้อขาย 892.78 ล้านบาท ปิดที่ 1.64 บาท ลดลง 0.02 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 589.49 ล้านบาท ปิดที่ 319.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 568.06 ล้านบาท ปิดที่ 32.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 464.60 ล้านบาท ปิดที่ 15.00 บาท ลดลง 0.10 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 419.70 ล้านบาท ปิดที่ 61.50 บาท ลดลง 0.50 บาท