สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 32,506 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 22,900 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 70% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 7,289 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 2 ปี 3 ปี และ 5 ปี (LB145B LB15DA และLB17OA) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 4,114 ล้านบาท หรือคิดเป็น 56% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 1,634 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT128A, TLY124A) และ หุ้นกู้บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) (MBK163A) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 599 ล้านบาท หรือคิดเป็น 37% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 6,597 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยมีสถานะขายสุทธิ 10 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 893 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวลดลงเล็กน้อย หรือโดยเฉลี่ยแล้วปรับตัวลดลงในช่วงประมาณ - 1 ถึง - 5 Basis Point ภาพรวมของตลาดตราสารหนี้ในวันนี้มีแรงซื้อจากนักลงทุนในทุกช่วงอายุของตราสารหนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเป็น 3.53% สำหรับการซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศค่อนข้างเบาบาง ปัจจัยเรื่องวิกฤตหนี้ยุโรปยังคงเป็นปัจจัยที่น่าจับตามองว่าปัญหาจะลุกลามและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของยูโรโซน หากยังไม่มีมาตรการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดที่ 3.12% ปรับตัวลดลง 0.02% จากวันก่อนหน้า และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดคงที่ที่ 3.15%