ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สี่ติดต่อกันมาปิดที่ระดับสูงสุดในรอบหกเดือน เมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) หลังจากที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเปิดเผยผลประกอบการที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนยังคงระมัดระวังการซื้อขายเพื่อรอดูผลการเจรจาหนี้ของทางการกรีซ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 96.50 จุด หรือ 0.76% แตะที่ 12,720.48 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 0.88 จุด หรือ 0.07% แตะที่ 1,315.38 จุด อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ขยับลงเล็กน้อย 1.63 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 2,786.70 จุด
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดแทบไม่เปลี่ยนแปลง ก่อนที่จะค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นจากแรงซื้อที่ได้รับปัจจัยหนุนจากผลประกอบการไตรมาสสี่ที่ดีเกินคาดของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่หลายแห่งของสหรัฐ โดยหุ้นไอบีเอ็ม, ไมโครซอฟท์ และอินเทล พุ่งแรง หนุนให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวก ในทางกลับกัน หุ้นกูเกิลร่วงลง หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด ซึ่งส่งผลกดดันให้ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ
ขณะเดียวกัน นักลงทุนบางส่วนยังคงมีท่าทีระมัดระวังเกี่ยวกับสถานการณ์ในยุโรป ในขณะที่กรีซและบรรดาธนาคารเจ้าหนี้ยังคงเจรจาหารือติดต่อกันเป็นวันที่สามเกี่ยวกับวิธีการลดหนี้สาธารณะของรัฐบาล
การเจรจาระหว่างกรีซและผู้ถือพันธบัตรภาคเอกชนได้ล่วงเข้าสู่วันที่สามเมื่อวานนี้ โดยมีการพูดกันว่าอาจมีการบรรลุข้อตกลงสวอปพันธบัตรในเร็วๆนี้ ซึ่งอาจช่วยป้องกันกรีซจากการผิดนัดชำระหนี้ที่จะสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายในตลาดได้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังไม่กล้าผลีผลาม เพราะยังกังวลว่า ยุโรปได้แต่ผลัดวันประกันพรุ่ง แทนที่จะพยายามจัดการกับปัญหาหนี้ให้เร็วกว่านี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองอยู่ที่ 4.6 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5% จากเดือนพ.ย. และเพิ่มขึ้น 3.6% จากปีก่อน
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ได้รับแรงหนุนจากหุ้นบลูชิพอย่างไอบีเอ็มและไมโครซอฟท์ที่เดินหน้าคึกคัก โดยหุ้นอินเตอร์เนชั่นแนล บิสสิเนส แมชชีนส์ (ไอบีเอ็ม) พุ่ง 4.43% ปิดที่ 188.52 ดอลลาร์ ขานรับรายงานผลประกอบการไตรมาสสี่ที่สูงเกินคาด รวมถึงคาดการณ์แนวโน้มปี 2555 ที่ดีขึ้น อันเนื่องมาจากความต้องการซอฟต์แวร์ที่แข็งแกร่ง
ไมโครซอฟต์พุ่ง 5.7% สู่ระดับ 29.71 ดอลลาร์ สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปีที่แล้ว เนื่องจากนักลงทุนมีปฏิกริยาที่เป็นบวกต่อผลประกอบการของบริษัทที่ได้รับแรงหนุนจากยอดขายเครื่องเล่นเกม Xbox รวมถึงสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้อง
ด้านอินเทลบวก 2.9% แตะ 26.38 ดอลลาร์ โดยบริษัทคาดว่ารายได้ในไตรมาสแรกปีนี้อาจสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า ปัญหาอุปทานดิสก์ไดรฟ์ขาดแคลนที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตคอมพิวเตอร์พีซีในช่วงก่อนหนานี้อาจสิ้นสุดลงแล้ว
ส่วนหุ้นกูเกิลดิ่งลง 8.4% หลังจากที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเสิร์ชเอนจิ้นเผยผลกำไรไตรมาสสี่ที่ต่ำกว่าการประเมินของนักวิเคราะห์ ซึ่งหุ้นกูเกิลที่ทรุดตัวลงนี้ได้ถ่วงให้ดัชนี Nasdaq ปิดขยับลง
ขณะที่ดัชนี Standard & Poor’s 500 พยุงตัวขึ้นมาปิดในแดนบวกได้ในช่วงนาทีสุดท้ายของการซื้อขาย หลังจากที่หุ้นธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค บวก 1.2% แตะ 37.36 ดอลลาร์ และ แบงก์ ออฟ อเมริกา บวก 1.6% แตะ 7.07 ดอลลาร์