ส่วนกรณีธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เรียกเก็บเงินนำส่งเพิ่มเติมจากเงินคุ้มครองเงินฝาก เนื่องจากการโอนหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน(FIDF)มาให้ ธปท.บริหารจัดการทำอาจส่งผลให้มีภาระดอกเบี้ยมากขึ้น แต่เราคาดว่าประเด็นดังกล่าวยังต้องใช้เวลาอีกนานเพื่อหาข้อสรุปกดดันบ้างแต่ไม่มาก
อย่างไรก็ตาม ยังมีมุมมองที่ดีต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ส่วนใหญ่ยังมีการเติบโตของสินเชื่อที่ดี แม้การเก็บเงินเข้ารัฐเป็นตัวแปรต่อการประมาณกำไร แต่ไม่กระทบอย่างมีนัย บางแห่งต้องปรับกลยุทธการระดมเงินฝากบ้าง อย่างไรก็ตาม ยังมีมุมมองที่ดีต่อ แบงก์ขนาดใหญ่-กลาง อย่าง BBL KBANK SCB เพราะถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ
สำหรับ KBANK มองทิศทางธุรกิจในปี 2555 ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าการเติบโตสินเชื่อเท่ากับ 9-11% YoY ในขณะที่แนวโน้มรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิคาดว่าจะเติบโตถึง 18%YoY ให้ราคาเหมาะสม 142 บาท
ด้าน BBL ตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อในปี 2555 ที่ระดับ 6-8% YoY เช่นเดียวกันกับแนวโน้มรายได้ค่าธรรมเนียมที่คาดว่าจะเติบโตใกล้เคียงกับปี 2554 ที่ระดับ 10% YoY ให้ราคาเหมาะสม 180 บาท และ SCB ที่ราคา 136 บาท
หุ้น KBANK บวก 0.81 % มาอยู่ที่ 124.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท โดยเปิดตลาดที่ 124.00 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุด 125.00 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 124.00 บาท
หุ้น SCB บวก 0.42% มาอยู่ที่ 120.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท โดยเปิดตลาดที่ 119.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุด 120.00 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 119.00 บาท