ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลจีนจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอย่างมาก รวมถึงยอดส่งออกที่ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 42.76 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 13,207.95 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 3.07 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 1,405.87 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.22 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 3,020.86 จุด
ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 0.85% ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 1.07% และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 1.78%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลจีนจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยสำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 1.0% ซึ่งชะลอลงหลังจากที่การส่งออกพุ่งขึ้น 11.3% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 4.7% หลังจากดีดตัวขึ้น 6.3% ในเดือนมิ.ย. ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าเดือนก.ค.ของจีนร่วงลงสู่ระดับ 2.51 หมื่นล้านดอลลาร์ เทียบกับระดับ 3.17 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.
ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ขยายตัว 1.8% ในเดือนก.ค. จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งชะลอลงจากระดับ 2.2% ในเดือนมิ.ย. สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอย่างมาก
นอกจากนี้ ตลาดยังคงขานรับความคาดหวังของนักลงทุนที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่เฟดประเมินในการประชุมครั้งล่าสุดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐชะลอตัวลง ในขณะที่อัตราว่างงานยังอยู่ในระดับที่สูงมาก
หุ้นยาฮูร่วงลง 5.4% หุ้นรีเสิร์ช อิน โมชั่น (RIM) พุ่งขึ้น 6.3%