ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สร่วง 94 จุด เหตุผิดหวังผลประกอบการ, จับตาจีดีพีสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 26, 2012 19:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลง 94 จุด หรือ 0.7% แตะที่ 12,962 จุด และดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าร่วงลง 0.8% แตะที่ 1,397.4 จุด ณ เวลา 7.20 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ โดยบรรยากาศการซื้อขายได้รับปัจจัยลบจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทยักษ์ใหญ่ ขณะเดียวกันนักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3 ในเวลา 19.30 น. ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จีดีพีไตรมาส 3 จะขยายตัว 1.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 1.3%

ขณะที่รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนต.ค.ในวันนี้เวลา 20.55 น.ตามเวลาไทย

อเมซอนร่วง 1.3% หลังจากบริษัทค้าปลีกออนไลน์รายงานยอดขาดดุลรายไตรมาสเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2546 เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น โดยในไตรมาส 3 ปีนี้ บริษัทมียอดขาดดุลสุทธิ 274 ล้านดอลลาร์ หรือ 60 เซนต์ต่อหุ้น เทียบกับกำไรสุทธิที่ 63 ล้านดอลลาร์ หรือ 14 เซนต์ต่อหุ้นในปีก่อน ส่วนรายได้เพิ่มขึ้น 27% แตะ 1.38 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

หุ้นเมอร์คลดลง 0.5% แม้บริษัทผู้ผลิตยารายใหญ่เผยผลกำไรไตรมาส 3 ที่ 95 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 93 เซนต์ก็ตาม

อย่างไรก็ดีหุ้นแอปเปิลขยับขึ้น 0.3% หลังบริษัทเผยรายได้ในไตรมาสล่าสุดที่สูงกว่าการประเมินของนักวิเคราะห์ แต่ผลกำไรกลับต่ำกว่าคาด โดยในไตรมาส 4 ที่สิ้นสุดในวันที่ 29 ก.ย.ของปีงบการเงิน 2555 แอปเปิลมีรายได้ 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ และผลกำไรสุทธิ 8.2 พันล้านดอลลาร์ หรือ 8.67 ดอลลาร์ต่อหุ้น

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดว่าแอปเปิลจะมีผลกำไร 8.75 ดอลลาร์ต่อหุ้น ด้วยรายได้ 3.58 หมื่นล้านดอลลาร์

แอปเปิลระบุว่า ยอดขายไอโฟนสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่คาดไว้ที่ 25-26 ล้านเครื่อง แต่ยอดขายไอแพดต่ำกว่าที่คาดไว้ในช่วง 17-18 ล้านเครื่อง

หุ้นเอ็กซ์พีเดีย อิงค์ ทะยาน 17% หลังจากบริษัทผู้ให้บริการเว็บไซต์ด้านการท่องเที่ยวรายใหญ่ของโลก เผยผลกำไรเพิ่มขึ้น 4.2% แตะ 188 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.32 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากระดับ 180.5 ดอลลาร์ หรือ 1.28 ดอลลาร์ต่อหุ้นในปีก่อน ซึ่งเหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่ประเมินว่ากำไรของบริษัทน่าจะลดลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ