นายเมธา วัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายงานพัฒนาธุรกิจและงานพัฒนาโครงการแนวราบ SIRI กล่าวว่า ในช่วงต้นปีบริษัทมองเป้ายอดขายโครงการแนวราบไว้ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท แต่ขณะนี้ยอมรับว่าคงทำได้ลำบาก เพราะติดปัญหาเรื่องการหาที่ดินมาพัฒนาโครงการ จึงคาดว่าทั้งปีน่าจะมียอดขายราว 1.7 หมื่นล้านบาท โดยครึ่งปีแรกน่าจะทำได้กว่า 7 พันล้านบาท และในครึ่งปีหลังคงทำได้อีกราวกว่า 9 พันล้านบาท
"อีก 6 เดือนน่าจะขายได้ เพราะครึ่งปีแรกไม่ได้เปิดบ้านเดี่ยวเลย โดยที่เหลือของปีนี้มีแผนจะเปิด 8-9 โครงการแนวราบ มูลค่ารวม 6-7 พันล้านบาท"นายเมธา กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์"คณาสิริ"จำนวน 3 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท เป็นบ้านระดับราคาเริ่มต้น 3 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลล์บ้านเดี่ยว"คณาศิริ วงแหวน-พระราม 5"ช่วง 28-30 มิ.ย.จากนั้นในไตรมาส 3-ไตรมาส 4 ของปีนี้จะเปิดตัวโครงการ "คณาศิริ บางนา"และ "คณาศิริ ศาลายา"
ส่วนโครงการทาวน์โฮมแบรนด์"เมท ทาวน์"ในปีนี้จะเปิดตัว 2-3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 900 ล้านบาท โดยหลังจากเปิดตัวโครงการ เมท ทาวน์ ปทุมธานี ไปแล้วในช่วงครึ่งปีแรกได้รับการตอบรับที่ดี จึงอยู่ระหว่างเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ที่บางนาและปทุมธานีเพิ่มเติมในไตรมาส 3/56
ที่เหลือเป็นโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์"รณาสิริ"จะเปิดตัว 2 โครงการใหม่ ในไตรมาส 3/56 ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวระดับราคา 20 กว่าล้านบาทขึ้นไป และจะเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านระดับราคาเริ่มต้น 6 ล้านบาทขึ้นไปในอีก 2 เดือนข้างหน้า
นายเมธา กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ในปีนี้ที่ 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันมี backlog แล้ว 2-3 พันล้านบาท ซึ่งอีก 2-3 เดือนน่าจะโอนได้ทั้งหมด เนื่องจากใช้เทคโนโลยีพรีแคสในการก่อสร้างเกือบ 100% ทำให้ก่อสร้างได้เร็ว และครึ่งปีหลังคาดว่าจะปรับราคาบ้านขึ้น 4-5% โดยจะทยอยปรับราคาเมื่อมียอดขายเข้าในเกณฑ์ที่ดี ซึ่งเป็นการปรับขึ้นราคาต่ำกว่าปีก่อนที่ปรับขึ้นไป 10%
บริษัทไม่ได้กังวลปัญหากำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัว เพราะมองว่าโครงการแนวราบไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากผู้ซื้อมักจะวางแผนล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว ไม่ได้ซื้อเพื่อเก็งกำไร แต่ยอมรับว่าเป็นห่วงภาพรวมเศรษฐกิจที่อาจจะชะลอตัวลงบ้าง แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจจะกลับมาเติบโตได้ ซึ่งหากกำลังซื้อบ้านชะลอลง บริษัทก็อาจปรับกลยุทธ์ด้วยการชะลอการก่อสร้าง แต่สิ่งสำคัญขณะนี้คือการก่อสร้างต้องไม่ล่าช้าเพื่อให้รับรู้รายได้ตามกำหนด
"ตลาดแนวราบครึ่งปีหลัง ทรงๆ ไม่หวือหวา ไม่โตมากเมื่อเทียบปีต่อปี แต่ก็ไม่หดลง ดีมานด์ไม่ได้เยอะขึ้น แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีสัญญาณที่คนจะไม่ซื้อ"นายเมธา กล่าว