(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งผันผวนในกรอบแคบ จับตาสถานการณ์ม็อบยางในปท.-ซีเรีย

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 5, 2013 09:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าดัชนีจะมีกาวแกว่งตัวในแดนบวกและแดนลบในกรอบแคบ แต่ให้น้ำหนักทางด้านแดนลบมากกว่า เนื่องจาก กระแสเงินทุนไหลออกอย่างต่อเนื่องในตลาดหุ้นกลุ่ม TIP ประกอบกับปัจจัยเชิงลบจากสถานการ์ณความไม่สงบในซีเรีย ทำให้ราคาหุ้นในช่วงนี้ผันผวน

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความไม่สงบในซีเรียยังต้องรอความชัดเจนจากการอนุมัติของสภาครองเกรสในวันที่ 9 ก.ย. 56 และคาดว่าความชัดเจนจะมีมากขึ้นจากการประชุมใน G20 วันที่ 5-6 ก.ย. 56 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ยังต้องติดตาม

ส่วนปัจจัยในประเทศเป็นการประท้วงเรียกร้องของม็อบสวนยางที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศ

ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเปิดตลาดภาคเช้าส่วนใหญ่เป็นบวก พร้อมทั้งจับตาผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งถ้าเพิ่มสูงขึ้นไปมากจะทำให้ราคาหุ้นมีแนวโน้มลดลง โดยปัจจุบันจับตาผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี อยู่ที่ 2.9%

พร้อมให้แนวรับ 1,280-1,285 จุด แนวต้าน 1,310-1,315 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(4 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,930.87 จุด เพิ่มขึ้น 96.91 จุด(+0.65%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,653.08 จุด เพิ่มขึ้น 13.31 จุด(+0.81%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,649.04 จุด เพิ่มขึ้น 36.43 จุด(+1.01%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 86.33 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.36 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 212.74 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 25.80 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 10.63 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 15.99 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 1.17 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.34 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 5.20 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(4 ก.ย.)ที่ 1,303.21 จุด ลดลง 12.20 จุด(-0.93%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 410.23 ล้านบาท เมื่อ 4 ก.ย.56
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(4 ก.ย.)ที่ 107.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.31 ดอลลาร์ฯหรือ 1.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(4 ก.ย.)ที่ 4.41 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.18/20 กลับมาแข็งค่าตามภูมิภาค
  • "พาณิชย์"เล็งปรับเป้าส่งออกปีนี้เหลือโต 2.68% จากเป้าหมายเดิม 7-7.5% หลังพบ 7 เดือนแรกขยายตัวแค่ 0.6% เรียกทูตพาณิชย์ถก 23 ก.ย.นี้ ด้าน สศค.จ่อปรับลดจีดีพีสอดรับตัวเลข สศช.ที่ 4% ชี้หากจะให้เศรษฐกิจโตตามเป้าที่ 4.5% ส่งออกต้องโต 5.5% ขณะที่ แบงก์ชาติ ลุ้นเศรษฐกิจโลกฟื้นหนุนส่งออก "ปรีดิยาธร" แนะเลิกหวังเศรษฐกิจโตเกิน 4%
  • สหรัฐเดินหน้ากระบวนการถล่มซีเรียถกร่างกฎหมายกำลังกรอบใช้กำลังทหาร 60 วัน ขยายต่ออีก 30 วัน ด้านรัสเซีย เสียงอ่อน ยอมเปิดทาง หากพบใช้อาวุธเคมีจริง ขณะประเทศจี20 ถกรับสถานการณ์ ค่าเงินเอเชียอ่อน-น้ำมันพุ่งรับข่าว
  • ครม.ไร้มาตรการดูแลค่าครองชีพ พาณิชย์อ้างไม่มีผู้ประกอบการรายใดขอขึ้นราคา, นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ว่า ที่ประชุมไม่ได้หารือเรื่องการดูแลค่าครองชีพของประชาชนเป็นกรณีพิเศษ เพราะกระทรวงพาณิชย์มีมาตรการดูแลค่าครองชีพให้ประชาชนอยู่แล้ว
  • นางเพ็ญทิพย์ พรจะเด็ด นายกสมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (สสวท.)เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ได้รับผลกระทบต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม ค่าทางด่วน วัตถุดิบ และเศรษฐกิจหดตัว จึงจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาสินค้า 5-10%
  • บอร์ดกนง.ประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยปีนี้ต่ำกว่า 4.2% และปีหน้าต่ำกว่า5% เหตุบริโภคเอกชน-ส่งออกชะลอตัวหนัก และแรงกระตุ้นรัฐล่าช้า ห่วงการผิดนัดสินเชื่อรถยนต์กระทบราคารถยนต์มือสอง มูลค่าหลักประกัน และฐานะของสถาบันการเงินให้กู้ สั่งจับตาสินเชื่อส่วนบุคคลที่ใช้รถยนต์เป็นหลักประกัน ขณะเดียวกัน ผู้ให้บริการบัตรเดบิตทุกรายที่ออกและใช้จ่ายในประเทศต้องส่งรายการเข้าระบบ Local Switching ตั้งแต่ 1 ก.ย.นี้

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SEAOIL(ฟินันเซียไซรัส)เริ่มซื้อขายวันนี้ในตลาด MAI ประเมินราคาเป้าหมาย 4.80 บาท อิง PE 11 เท่าโดยราคา IPO ที่ 3.45 บาทคิดเป็น PE 7.9 เท่าในปีนี้และ 6.6 เท่าปีหน้า พร้อมคาดกำไรปี 2013-14 เติบโต 24% และ 20% เป็น 78 ล้านบาท และ 94 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับกำไรใน 1H13 +56% Y-Y คิดเป็น 53% ของประมาณการ

บริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายน้ำมันทางทะเล และธุรกิจอื่นจากการจัดจำหน่ายน้ำมันทางบก และธุรกิจ Supply Management โดยเป็นคนกลางรับคำสั่งซื้อน้ำมันจากลูกค้า และทำการสั่งซื้อน้ำมันจากผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ในปริมาณมาก ทำให้ได้ราคาต่ำ เพื่อนำไปส่งมอบให้ลูกค้า ฐานลูกค้าส่วนใหญ่ได้แก่ เรือบรรทุกน้ำมัน และเรือบริวารแท่นขุดเจาะ เป็นต้น กำไรปี 2011-12 โตเฉลี่ยปีละ 51% บริษัทมีแผนขยายฐานลูกค้าในกลุ่ม Oil & Gas ซึ่งมีอัตรากำไรสูง และขยายการให้บริการไปยังน่านน้ำทางด้านอันดามัน จากปัจจุบันที่อยู่ฝั่งอ่าวไทย

  • AIM-W2เริ่มทำการซื้อขายวันนี้มีจำนวน 4,599,606,717 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.10 บาทต่อหุ้น อายุ 3 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ออกคือ 23 สิงหาคม 2556)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก และใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 22 ส.ค. 2559
  • PTTGC(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 81.2 บาท คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว กำไรสุทธิจะกลับมาฟื้นตัวตั้งแต่ 3Q56 แรงหนุนจากราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรฯทรงตัวสูง โรงกลั่นที่หยุดซ่อมบำรุงใน 2Q56 ก็กลับมาเปิดปกติ ส่วนความเสียหายท่อน้ำมันรั่วในทะเลยังไม่สรุปชัดเจนแต่คาดอยู่ในวงจำกัดและภายใต้วงเงินประกันภัย กำไรทั้งปีจึงคงประมาณการณ์ไว้ตามเดิมที่ 36,600 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 8%yoy
  • KKP(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 78 บาท เพื่อรับเงินปันผล 1H56 และคาดการณ์เงินปันผลทั้งปี 56 หุ้นละ 2.75 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 7.1% ขึ้น XD เงินปันผล 1H56 หุ้นละ 1.00 บาท 10 ก.ย.คิดเป็นผลตอบแทนเงินปันผล 2.5% และเชื่อราคาหุ้นสะท้อนมุมมองเชิงลบต่อทิศทางธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อชะลอตัวลงใน 2H56 ไปมากแล้ว และราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 43 บาท
  • PTTEP,PTT,CPF(เคทีบี)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 204,420 และ 40.40 บาทตามลำดับ น่าสนใจในระยะสั้น โดยมองจากทิศทางผลการดำเนินงานในช่วง 2H56 โดยมีราคาน้ามันดิบที่ทรงตัวสูงเป็นปัจจัยหนุนสาหรับ PTTEP และ PTT ส่วน CPF กำลังมีแรงหนุนส่วนเพิ่มจากธุรกิจนมและโยเกิร์ตที่มาจาก CP Meiji โดยพบว่า ยอดขายถล่มทลายในส่วนของโยเกิร์ต Bulgaria

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ