(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นรับกระแสทุนไหลเข้า-จับตา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ

อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยในประเทศที่ยังต้องจับตาเกี่ยวกับการนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯว่าจะมีการบรรจุลงในวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อใด เพราะจะเป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดหุ้นไทยได้ หลังจากมีการแก้ไขสาระสำคัญในขั้นกรรมาธิการที่อาจกลายเป็นประเด็นนำไปสู่ความขัดแย้ง

ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก ตอบรับดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ในวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาดีและกำไรของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯดีขึ้น

พร้อมให้กรอบการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยวันนี้ที่แนวต้าน 1,495-1,500 จุด แนวรับ 1,475-1,480 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(18 ต.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,399.65 จุด เพิ่มขึ้น 28.00 จุด (+0.18%)ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,744.50 จุด เพิ่มขึ้น 11.35 จุด (+0.65%) ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,914.28 จุด เพิ่มขึ้น 51.13 จุด (+1.32%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 62.49 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 4.33 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 154.27 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 15.49 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.76 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 13.11 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ไม่เปลี่ยนแปลง, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.67 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 8.80 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(18 ต.ค.)ที่ 1,484.72 จุด เพิ่มขึ้น 15.63 จุด (+1.06%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 971.53 ล้านบาท เมื่อ 18 ต.ค.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(18 ต.ค.)ที่ 100.81 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.14 ดอลลาร์ฯ
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(18 ต.ค.)ที่ 3.79 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 31.06/07 เคลื่อนไหวตามภูมิภาค
• คลังชี้กระทบค่าเงิน-ดอกเบี้ย เตือนธุรกิจเตรียมแผนรองรับ, เตือนตลาดเงิน-ทุนผันผวนรอบใหม่ เงินไหลเข้า-ออกเร็วกว่าช่วงต้นปี ระบุหลายปัจจัยยังไม่ชัดเจน ทั้งวิกฤติคลังสหรัฐ- เฟดลดคิวอี-การฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก แบงก์เตือนปีหน้ายิ่งเป็นปัจจัยกดดัน มากขึ้นห่วงสภาพคล่องตึงตัว จากโครงการ 2 ล้านล้านเริ่มกู้เงิน
• ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานยอดการใช้เช็คทั้งระบบล่าสุด ณ สิ้นเดือน ก.ย.ปีนี้ พบว่ามีปริมาณการใช้เช็คทั้งสิ้น 6.32 ล้านฉบับ แต่เป็นเช็คคืนที่ไม่มีเงิน 6.87 หมื่นฉบับคิดเป็นมูลค่าเช็คเด้งรวม 1 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 2,630 ล้านบาท หรือ 35.64% เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
• ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 ต.ค.นี้ กสท.ได้ให้ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตโครงข่ายทีวีดิจิตอลทั้ง 4 ราย คือ ช่อง 5 ช่อง 11 อสมท และไทยพีบีเอส ชี้แจงต้นทุนค่าเช่าโครงข่ายที่มีราคา 4.6-4.76 ล้านบาทต่อเดือน ให้กับบริษัทที่ซื้อซองประมูลรวม 33 รายรับทราบ ซึ่งเป็นการชี้แจงครั้งสุดท้ายก่อนจะเปิดให้ยื่นซองประมูลวันที่ 28-29 ต.ค.นี้
• ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า ธนาคารมีความกังวลว่าในช่วง 1-2 ปีถัดจากนี้ไป ภาคการธนาคารและผู้ประกอบการธุรกิจของไทยอาจจะต้องเผชิญกับภาวะสภาพคล่องในระบบที่ตึงตัวอย่างรุนแรง จากความต้องการใช้เงินในแผนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ และความต้องการเม็ดเงินในการขยายธุรกิจของภาคเอกชนที่จะเร่งตัวขึ้นหลังจากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว
• รมช.คลัง สั่งการอธิบดีกรมศุลกากรเตรียมความพร้อมเบิกจ่ายเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ทันทีที่ พ.ร.บ.กู้เงินฯมีผลบังคับใช้ เนื่องจากมีงบสร้างด่านศุลกากร บ้านพักของเจ้าหน้าที่ และงบจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ 41 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาทในจำนวนนี้มีกว่า 24 โครงการที่สามารถดำเนินการได้ทันที คาดจะมีการเบิกจ่ายในปีงบประมาณ 57

*หุ้นเด่นวันนี้

• SAMART (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 26.50 บาท สะท้อนปรับประมาณการกำไรสุทธิบริษัทลูกโดยเฉพาะ SIM ที่มียอดขายโทรศัพท์และอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นจากการเพิ่มยอดขาย Smart Phone ส่วน SAMTEL มีโอกาสเพิ่ม Backlog เป็น 1 หมื่นล้านบาทจากงานรอเซ็นสัญญาหลายโครงการ คาดปีนี้ SAMART กำไรจากดำเนินงานเติบโตกว่า 49% YoY เป็น 1,389 ล้านบาท ส่วนปี 57 คาดกำไรปกติ 1,695 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอีก 22% YoY
• GLOBAL (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 24 บาท ล่าสุดคงเป้ารายได้ปี 56 โตราว 40-45% ใกล้เคียงกับประมาณการของเราที่คาดเติบโต 45% แม้ใน 3Q56 จะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในบางพื้นที่ แต่ไม่พบความเสียหายต่อตัวสาขา อาจเป็นอุปสรรคการเดินทางของลูกค้าบ้าง อย่างไรก็ดีบนสมมติฐานในกรณีเลวร้ายที่ 4 สาขาบริเวณน้ำท่วมทำให้ Same Store Sales ใน 3Q56 ลดลง 2% คาดกำไรสุทธิใน 3Q56 ยังคงโดดเด่นที่ 238 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% QoQ และ 53% YoY
• KTB (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 30 บาท แจ้งงบ 3Q56 วันนี้ คาดกำไรสุทธิจะทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 9,495 ล้านบาท โต +6% yoy, +48% qoq และ 24 ต.ค.พาณิชย์จะรายงานตัวเลขส่งออก-นำเข้าเดือน ก.ย.หากส่งออกขยายตัว yoy เป็นเดือนที่ 2 จะส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร และ GDP 3Q56 กลับมาขยายตัว qoq ดังนั้น ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ 30,443 ล้านบาท โต +29.3% yoy และต่อเนื่อง 28% yoy เป็น 38,976 ล้านบาทในปี 57 และราคาหุ้นมี Valuation ที่ยังค่อนนข้างถูก
• TPIPL(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 19 บาท คาดกำไรสุทธิ 3Q56 จะเติบโต +160% yoy และ +33% qoq เป็น 450 ล้านบาท จากยอดขายปูนซีเมนต์ในประเทศเพิ่มขึ้น qoq รวมทั้งการปรับขึ้นราคาปูนราว 100-200 บาท/ตัน ธุรกิจปิโตรฯคาดพลิกกลับเป็นกำไร จากสเปรดของ LDPE-Ethylene เพิ่มเป็น US$314/ตัน หรือ +204% yoy และ +25% qoq พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2556 โต +478.6% yoy เป็น 1,436 ล้านบาท และ +47.5% yoy เป็น 2,118 ล้านบาทในปี 57 และราคาหุ้นมี Downside Risk จำกัด
• JAS (ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 11 บาท ยังไม่รวมกำไรที่คาดเบื้องต้นประมาณ 3.75 บาท/หุ้นจากขายโครงข่ายบรอดแบนด์ฯเข้า Infrastructure Fund ราว 7 หมื่นล้านบาทช่วง 4Q13-1Q14 คาดกำไร 3 หมื่นล้านบาท อาจนำมาจ่ายปันผลพิเศษ,แนวโน้มกำไรยังดีต่อเนื่อง คาดกำไรปกติ +4% Q-Q, +44% Y-Y จากลูกค้าบรอดแบนด์เพิ่มขึ้นและยังเป็นตัวสร้างรายได้หลัก-ผลักดันผลประกอบการ 1-2 ปีข้างหน้า คาดกำไรปีนี้เติบโต 48% และปีหน้าโต 22%